คมนาคมเร่งฟื้นฟูถนนกลับมาสัญจรได้หลัง”วิภา”ถล่ม ตั้งศูนย์เฝ้าระวังด้านความมั่นคงและภัยพิบัติ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากผลกระทบของพายุโซนร้อนวิภา ทำให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมีผลต่อการสัญจรของประชาชนจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่เข้าลงพื้นที่จุดที่เกิดเหตุ เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมทางหลวง (ทล.) จัดเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ โดยได้รับผลกระทบรวม 15 สายทาง สัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ผ่านไม่ได้ 13 สายทาง พร้อมให้เร่งดำเนินการเพื่อให้เส้นทางกลับมาใช้สัญจรได้โดยเร็วที่สุด และระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบกับติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำตลอดแนวเส้นทาง

อีกทั้งได้สั่งการให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) นำเครื่องจักรยานพาหนะ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ น่าน แพร่ พะเยา ตาก และอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้มีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบรวม 41 สายทาง สัญจรผ่านได้ 20 สายทาง ผ่านไม่ได้ 21 สายทาง โดยให้จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมหน้างานเพื่อให้เส้นทางกลับมาใช้ในการสัญจรได้ปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำในเรื่องการบริหารจัดการเส้นทางกรณีผ่านไม่ได้ให้จัดหาทางเลี่ยง หากมีกรณีถนน/สะพานขาด ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ชั่วคราว รวมถึงจัดอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายประชาชนที่ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ และสนับสนุนรถบรรทุกน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคไปยังศูนย์พักพิงที่สนามกีฬาจังหวัดน่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นอีกด้วย

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัยด้านความมั่นคงและภัยพิบัติจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยเปิดระบบ VDO Conference เชื่อมต่อระบบให้ใช้งาน และสามารถติดตามสถานการณ์ที่ท่าอากาศยานได้ตลอดเวลาจากส่วนกลาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพื่อคอยรายงานสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้สั่งการให้เข้าสำรวจเส้นทาง หากพบว่ามีความเสี่ยงให้หยุดบริการชั่วคราว โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก ล่าสุด บขส. ได้รายงานว่า วันนี้ เวลาประมาณ 11.30 น. สถานีเดินรถเชียงคำ และเส้นทางการเดินรถบริเวณอำเภอเชียงคำ จุดจอดตอนเงิน และจุดจอดอำเภอปง จังหวัดพะเยา ระดับน้ำเริ่มลดลงบางส่วน แต่ในพื้นที่ยังคงมีฝนตก รถโดยสารสายที่ 962 เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงคำ สามารถเข้าใช้สถานีเดินรถได้ตามปกติแล้ว สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถคืนตั๋วโดยสารหรือเลื่อนการเดินทางได้ที่สถานีเดินรถ บขส. ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลและติดตามสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายคมนาคมได้ที่ www.mot.go.th : รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายคมนาคม Facebook : ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม ติดต่อขอรับการช่วยเหลือ สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทางได้ที่ สายด่วนกระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 และ ทช. 1146

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 68)