พิษภาษีทรัมป์! ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจก.ค.ทรุด หลังแรงฉุดจากภาคผลิตเพื่อส่งออก

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ค.68 ลดลงมาอยู่ที่ 45.8 จากระดับ 48.6 ในเดือนมิ.ย. ตามการลดลงในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านการผลิตและผลประกอบการ โดยความเชื่อมั่นภาคการผลิตปรับลดลงในหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก อันเป็นผลจากการเริ่มบังคับใช้มาตรการ Reciprocal tariffs ในวันที่ 1 ส.ค.68

ซึ่งแม้จะมีการขยาย grace period แล้ว แต่การขนส่งทางเรือไปสหรัฐฯ ต้องใช้เวลาการขนส่งขั้นต่ำ 30 วัน ทำให้ธุรกิจจำนวนมาก ไม่สามารถจัดส่งสินค้าไปถึงท่าเรือสหรัฐฯ ได้ทันตามกำหนดเวลา ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการผลิตปรับลดลงมาก นำโดยกลุ่มผลิตพลาสติก อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติก ทูน่ากระป๋อง และเครื่องปรับอากาศ

อย่างไรก็ดี กลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ ยังเป็นกลุ่มที่ความเชื่อมั่นอยู่เหนือระดับ 50 ได้ ตามผลดีของ data center และวัฎจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ โดยเฉพาะ semiconductors และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนความเชื่อมั่นภาคที่มิใช่การผลิต ปรับลดลงจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มการค้าที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านปริมาณการค้าสินค้าอุปโภคบริโภค ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ยกเว้นกลุ่มโรงแรม และร้านอาหารที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามผลดีของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ของภาครัฐ ที่ช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 และต่ำกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัญหา safety concern

สำหรับในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จาก 49.5 ในเดือนก่อน และยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ตามการลดลงในทุกองค์ประกอบ โดยความเชื่อมั่นภาคการผลิต ปรับลดลงและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตอาหาร อาทิ ผักผลไม้กระป๋อง ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงมาก ตามการส่งออกที่คาดว่าจะหดตัวจากผลของ Reciprocal tariffs ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ และผลประกอบการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ก็ปรับลดลงในหลายหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มการค้าปลีก ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 (ปี 2563) ตามความเชื่อมั่นด้านปริมาณการค้าที่ทรงตัวในระดับต่ำ รวมทั้งกลุ่มก่อสร้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ความเชื่อมั่นปรับลดลง โดยเฉพาะด้านปริมาณการให้บริการ ตามการชะลอการเปิดโครงการใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวของยอดขายที่อยู่อาศัยที่ชัดเจน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)