
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ที่เริ่มขึ้นในวันนี้ว่า เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาให้เห็นชอบ จากนั้นได้เตรียมการในช่วงเช้าวันเสาร์ และในช่วงบ่ายวันเดียวกันทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รมว.กลาโหมของมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่ายไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่ายืนยันและรับได้หรือไม่ พอใจและสบายใจหรือไม่ ซึ่งเหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 สิงหาคม ตนได้สั่งกองเลขาฯ ว่าให้ประชุมครึ่งวัน และนำประเด็นกลับมา เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง และในวันที่ 7 สิงหาคม ตนจึงจะไปสรุปและลงนามเพื่อความรอบคอบ
สำหรับกรอบการเจรจา GBC มีทิศทางบรรยากาศดีขึ้น ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์ และขอให้สื่อและประชาชนมั่นใจได้ว่า เราจะทำอย่างเต็มขีดความสามารถ คณะที่ไปประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เหล่าทัพทั้งหมด ตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทน ผบ.ทบ. ผู้แทน ผบ.ทร. และผู้แทน ผบ.ทอ. ไปร่วมประชุมด้วย การประชุมจะผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล
“เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนไปก็ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ แม้ประชุมแล้วก่อนเข้า GBC รอบสุดท้าย ก็กลับมาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ เราไม่ได้ทำโดยพลการ เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในคณะที่ไปว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบ และที่ยืนยันได้ ก็คือ มีความรักชาติ เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติ” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
สำหรับในประเด็นเรื่องโดรนที่ประชาชนกังวลในหลายพื้นที่นั้น ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานและทำบันทึก และตนจะเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เรามีภาพ พิกัดที่ล้ำเข้ามา เรื่องนี้มอบหมายให้กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ว่า มีความเปราะบางจากข่าวปลอม อย่างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีข่าวปลอมว่า ที่จังหวัดศรีสะเกษ ทหารไทยจะปฏิบัติการให้ประชาชนเข้าที่ปลอดภัย ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง และอยากให้ฟังศบ.ทก.เป็นหลักแม้ว่าอาจจะช้า แต่ต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ต้องไม่เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง
อย่างไรก็ตาม ในการประเมินสถานการณ์หลังประชุม GBC นั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า หากมองตามหลักการว่าประเด็นที่คุยกันไว้ ถ้าตกลงแล้วก็น่าจะดีขึ้น มันไม่ได้ตกลงแล้วจะจบทุกเรื่อง จะค่อย ๆ ลงไปทีละขั้น ๆ ไม่ใช่ไปประชุม GBC คราวนี้ แล้วจบทุกเรื่อง แต่จะเป็นตัวชี้วัดว่า ถ้าทำสเต็ปนี้ เขาให้ความร่วมมือ ก็จะไปสเต็ปต่อไป ค่อยเป็นค่อยไป เราก็กังวลเหมือนกัน เราต้องประเมินท่าทีเขาว่า เขามีความจริงใจสู่สันติหรือไม่ เราต้องค่อย ๆ ทำ GBC เอาแค่ไหน ซึ่งตนมองว่า ส่วนใหญ่จะมอบให้ RBC พูดต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพและดำเนินการ แต่ไม่ใช่การโยนภาระให้กองทัพ
“หากเขาเคารพผลประชุมก็ไม่น่ากังวล แต่ยอมรับว่าจากประสบการณ์การรับราชการมาตลอดชีวิต เพิ่งเจอคู่กรณีที่รับมือยากมาก เขาพูดอย่างทำอย่าง”
สำหรับประเด็นเชลยศึกนั้น ในการประชุม 3 ฝ่ายเราได้ชี้แจงว่า ได้ควบคุมอย่างดีตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 1 และให้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปดูและมีความพอใจว่า เราดูแลตามอนุสัญญาเรียบร้อย
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า หลักการของเราคือ จะปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ที่ตนเป็นห่วงคือ ประชาชนบางส่วนอาจไม่สบายใจว่าเป็นสุภาพบุรุษเกินไป แต่จะทำให้ไม่ถูกตำหนิจากนานาประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)