ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประกอบการ-หวังเฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (5 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงความหวังครั้งใหม่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 541.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด หรือ +0.15%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,621.04 จุด ลดลง 10.97 จุด หรือ -0.14%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,846.07 จุด เพิ่มขึ้น 88.38 จุด หรือ +0.37% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,142.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.43 จุด หรือ +0.16%

นักลงทุนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการ แม้ยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าต่อผลประกอบการของภาคเอกชน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดปรับตัวรับกับผลกระทบจากมาตรการเก็บภาษีได้ดีพอสมควร

ฤดูงบการเงินรอบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สะท้อนผลกระทบต่อสถานะของบริษัทจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่หลังการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป นักวิเคราะห์หลายรายได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของผลกำไรในไตรมาสสอง

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีแรก แต่นักวิเคราะห์ยังชี้ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาเทไปทางหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้น โดยดัชนี STOXX 600 ตอนนี้ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ

บรรยากาศในตลาดโลกยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดไว้ หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนออกมาอ่อนแอ

นอกจากนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคธุรกิจในยูโรโซนขยายตัวเร็วขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. แม้อุปสงค์ยังคงซบเซา

หุ้น Diageo ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ที่สุดของโลก พุ่งขึ้น 4.9% หลังบริษัทคาดว่ายอดขายในปี 2569 จะทรงตัว แม้ต้องเผชิญภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ พร้อมทั้งปรับเพิ่มเป้าหมายการประหยัดต้นทุน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มให้เพิ่มขึ้น 1.2%

หุ้น Infineon ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากเยอรมนี พุ่งขึ้น 4.6% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปี และระบุถึงการเริ่มฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก แม้ความกังวลเกี่ยวกับภาษียังคงมีอยู่

หุ้น BP พุ่งขึ้น 2.8% หลังบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยว่า จะทบทวนแผนการพัฒนาและบริหารสินทรัพย์น้ำมันและก๊าซใหม่ รวมถึงอาจลดต้นทุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น หลังจากรายงานกำไรไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาด

หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ลดลง 0.3% ตามทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ลดลง

หุ้น Smith+Nephew ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ของอังกฤษ พุ่งขึ้นถึง 15.3% หลังรายงานกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น และประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

หุ้นของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่เดนมาร์กอย่าง Novo Nordisk ร่วงลง 2.3% หลัง UBS ปรับลดคำแนะนำหุ้นจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยอ้างถึงความท้าทายหลายด้านที่อาจกระทบการเติบโตของบริษัท

Novo Nordisk มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 32% ในสัปดาห์ก่อน หลังลดคาดการณ์รายได้ปี 2568 และแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่จากภายในองค์กร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 68)