เงินบาทเปิด 32.46 อ่อนค่าต่อเนื่อง รับดอลลาร์แข็งค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.34 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก หลังตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนสูงเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ไว้

ส่วนปัจจัยในประเทศต้องจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินทุนระหว่างประเทศ (Flow) ในตลาดทุน ตลาดหุ้น และการค้าทองคำ

“เปิดตลาดเช้านี้บาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า เนื่องจากตลาดกังวลว่าเฟดอาจไม่ปรับลดดอกเบี้ยตามที่เคยคาดการณ์ไว้” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.30 – 32.60 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.63 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 146.49 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1649 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1680 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.3100 บาท/ดอลลาร์
  • คลังแจงสหรัฐยังไม่ตกผลึกหลักเกณฑ์ RVC-Local Content หลังเคาะภาษีนำเข้าที่ 19% ชี้เป็นเรื่องยาก มีรายละเอียดต้องพิจารณาอีกมาก
  • แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐขานรับ ธปท. ตบเท้าพาเหรดลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% หวังช่วยลูกค้าลดภาระการส่งหนี้ หวั่นทนแรงกดดันเศรษฐกิจซบไม่ไหว ขณะที่ยังไม่มีรายใดประกาศลดดอกเบี้ยเงินฝาก
  • สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายติดต่อกัน 5 ไตรมาส และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.4%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.4% ในเดือน
    มิ.ย.
  • นักวิเคราะห์จากบริษัท CFRA Research กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนความคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่ดัชนี PPI ล่าสุดที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจจะเริ่มส่งผลกระทบต่อตัวเลขเงินเฟ้อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะสกัดแรงบวกของตลาด
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.5% ในการประชุมเดือนก.ย. นอกจากนี้ ดัชนี PPI ที่สูงเกินคาดยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน
  • นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.และต.ค. แม้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด
  • ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ไม่เห็นถึงความจำเป็นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ความคิดที่ว่าเฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนส.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)