
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยความคืบหน้าการพิจารณาคำร้อง/สำนวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิก
วุฒิสภา (สว.) ในการจัดการเลือกระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67, ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 และระดับประเทศ เมื่อวัน
ที่ 26 มิ.ย.67 รวมทั้งสิ้น 601 เรื่อง (ข้อมูล ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568)
1.ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 555 เรื่อง ประกอบด้วย
1.1 พิจารณาคำร้องแล้วจำนวน 277 เรื่อง ดังนี้
- สั่งไม่รับ / รวบรวมเป็นข้อมูลจำนวน 143 เรื่อง
- สั่งยกคำร้อง / สั่งยุติเรื่อง จำนวน 132 เรื่อง
- สั่งนับคะแนนใหม่จำนวน 2 เรื่อง
1.2 วินิจฉัยชี้ขาดสำนวนแล้ว จำนวน 278 สำนวน ดังนี้
- ยกคำร้อง จำนวน 245 สำนวน
- ระงับสิทธิ จำนวน 2 สำนวน
- ดำเนินคดีอาญา จำนวน 11 สำนวน
- ยื่นคำร้องต่อศาลจำนวน 20 สำนวน
2.อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 46 เรื่อง ประกอบด้วย
- สืบสวน/ไต่สวน จำนวน 4 สำนวน
- สนง.กกต.เสนอสั่งไม่รับ/รายงานตรวจสอบ/รายงานตรวจมูล จำนวน 2 เรื่อง
- สนง.กกต.สรุปสำนวน/จัดทำความเห็น เลขาฯ กกต./ สอบเพิ่ม จำนวน 4 สำนวน
- สนง.กกต. อยู่ระหว่างเสนอสำนวนเข้าวาระการประชุม กกต. จำนวน 36 สำนวน
เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รับสำนวนแล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอนการพิจารณาคำร้อง/สำนวน ดังนี้
ชั้นที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนและจัดทำความเห็น เพื่อเสนอให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีความเห็นประกอบสำนวน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ส่วนกลาง) โดยเร็ว
ชั้นที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ส่วนกลาง) ได้รับสำนวนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแล้วไท้พนักงานสืบสวนและไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวน ดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย)
ชั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา
ชั้นที่ 4 คณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาขี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)