
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. … เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME โดย NaCGA ในอยู่ในฐานะหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จะทำหน้าที่ในการประเมินความเสี่ยง และค้ำประกันเครดิตให้กับประชาชนที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์
โดยกลไกการทำงานของ NaCGA ประกอบด้วย
- ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อติดต่อ NaCGA เพื่อให้พิจารณาค้ำประกันเครดิตให้กับตัวเอง ก่อนไปยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
- NaCGA จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ประกอบการ ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงรายบุคคล การค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) โดยใช้ฐานข้อมูลและแบบจำลองความเสี่ยงด้านเครดิตที่ NaCGA จัดทำขึ้นจากข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลทางเลือก
- NaCGA จะออกใบค้ำประกันเครดิตให้กับผู้ขอสินเชื่อ โดยผู้ขอสินเชื่อจ่ายค่าธรรมเนียมตามความเสี่ยงของตัวเอง แต่จะถูกกว่าค่าธรรมเนียมในโครงการ PGS ของบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และสถาบันการเงินที่ร่วมจ่าย
- ผู้ขอสินเชื่อนำใบค้ำประกันเครดิตที่ได้ไปยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
- สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อ เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อมี NaCGA เป็นผู้รับประกันความเสี่ยงด้านเครดิตแทนบางส่วน หรือทั้งหมดแล้ว
- หากผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ NaCGA จะเป็นผู้รับความเสี่ยงกับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข
ส่วนแหล่งทุนของ NaCGA ประกอบด้วย 1. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 2. ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ และ 3. เงินสมทบจากธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนตามเงื่อนไข ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐเพียงอย่างเดียว
รมช.คลัง กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตามกฎหมายได้กำหนดทุนประเดิมของ NaCGA ไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เงินกองกลางของ บสย. ซึ่งยืนยันว่ามีเพียงพอ และยังมีตัวเลือกอีกหลายช่องทาง
“กระบวนการหลังจากนี้ จะต้องส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตรวจร่าง และหลังจากนั้น จึงจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมด จะเสร็จทันในสมัยรัฐบาลปัจจุบันอย่างแน่นอน” นายเผ่าภูมิ ระบุ
สำหรับการบริหารจัดการของ NaCGA จะบริหารโดย 2 บอร์ดควบคู่กันไป คือ บอร์ดกำหนดนโยบาย และบอร์ดขับเคลื่อน โดยมี บสย. เป็นแกนกลาง ซึ่งจะใช้เวลา 1-5 ปี ในการควบรวมองค์กร ส่วนกลไกการทำงานของ บสย. ผ่านโครงการ PGS จะไม่ได้หายไป แต่จะทำงานควบคู่กัน
“ฐานข้อมูลของ NaCGA จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญของประเทศ โดยร่างกฎหมายได้กำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและเอกชน นำส่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อจัดทำแบบจำลองเครดิตให้ NaCGA เพื่อให้เกิดเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่รวบรวมข้อมูลของภาคธุรกิจในประเทศ” รมช.คลัง ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)