ผู้ว่า BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย หลังคาดตลาดแรงงานตึงตัวหนุนค่าจ้างสูง

คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างในญี่ปุ่นกำลังขยายตัวเป็นวงกว้างนอกเหนือไปจากบริษัทขนาดใหญ่ และคาดว่าค่าจ้างจะยังคงปรับตัวขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัว โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ถึงมุมมองเชิงบวกของผู้ว่าการ BOJ ว่า ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งนั้น กำลังอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม

อุเอดะแสดงความเห็นดังกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นในระหว่างการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า BOJ จะกลับสู่วงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ หลังจากที่ได้ระงับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออก

อุเอดะกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น แม้ประชากรวัยทำงานของญี่ปุ่นจะลดลง แต่การเติบโตของค่าจ้างกลับซบเซาลงเป็นเวลานานหลายทศวรรษ เนื่องจาก “การคาดการณ์ภาวะเงินฝืดที่ฝังรากลึก” ได้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่กล้าขึ้นปรับขึ้นราคาสินค้าและค่าจ้าง แต่ขณะนี้ค่าจ้างกำลังปรับตัวสูงขึ้น และภาวะขาดแคลนแรงงานได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจที่เร่งด่วนที่สุด เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกซึ่งมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้กลายเป็นปัจจัยภายนอกที่ทำให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด

“เป็นที่น่าสังเกตว่าการเติบโตของค่าจ้างกำลังกระจายตัวจากบริษัทขนาดใหญ่ไปสู่บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง” อุเอดะกล่าว และเสริมว่า “หากไม่มีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์อย่างรุนแรง ก็คาดว่าตลาดแรงงานน่าจะยังคงตึงตัวและยังคงผลักดันให้ค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้นต่อไป”

ทั้งนี้ ผู้ว่าการ BOJ ได้เข้าร่วมการเสวนาในเวทีแจ็กสัน โฮล ในหัวข้อ “Labor Markets in Transition: Demographics, Productivity, and Macroeconomic Policy” หรือ “ตลาดแรงงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน: โครงสร้างประชากร, ประสิทธิภาพการผลิต และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ร่วมกับแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)

สำหรับ BOJ นั้น หลังจากได้ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ดำเนินมานานกว่าหนึ่งทศวรรษเมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการ BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ในเดือนม.ค.ปีนี้ โดยมองว่าญี่ปุ่นจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ได้อย่างยั่งยืน

BOJ ได้คงอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่นั้น โดยในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. คณะกรรมการ BOJ มีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% แต่ก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่า BOJ ยังคงมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ในการประชุมวันดังกล่าว BOJ คาดการณ์ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด จะปรับตัวขึ้น 2.7% ในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. เทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 2.2%

ขณะเดียวกัน BOJ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 0.6% ในปีงบประมาณ 2568 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 0.5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 68)