
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานการประชุมด้านนโยบายเกี่ยวกับสงครามกาซาในวันพุธ (27 ส.ค.) โดยมี โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ จาเรด คุชเนอร์ อดีตผู้แทนพิเศษของทรัมป์ในตะวันออกกลาง เข้าร่วมให้ข้อมูล ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า การประชุมนี้เป็นเพียงการประชุมนโยบายซึ่งทรัมป์และทีมงานมักจัดขึ้นเป็นประจำ
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ กล่าวถึงการประชุมนี้ในรายการ Special Report with Bret Baier ของ Fox News เมื่อวันอังคารว่า ทีมงานกำลังจัดทำแผนอย่างรอบด้านสำหรับวันถัดไปในกาซา ซึ่งหลายฝ่ายจะได้เห็นว่า แผนดังกล่าวเข้มแข็ง มีเจตนาดี และสะท้อนแรงจูงใจด้านมนุษยธรรมของประธานาธิบดีทรัมป์
ในการประชุม ทรัมป์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว แบลร์ และคุชเนอร์ ได้หารือทุกด้านเกี่ยวกับปัญหาในกาซา ทั้งการเพิ่มปริมาณความช่วยเหลือด้านอาหาร วิกฤตตัวประกัน แผนหลังสงคราม และประเด็นอื่น ๆ
คุชเนอร์ ซึ่งเป็นสามีของอิวานกา บุตรสาวของทรัมป์ เคยเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญด้านตะวันออกกลางในสมัยทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ส่วนแบลร์ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสงครามอิรักปี 2546 และก็มีบทบาทในประเด็นตะวันออกกลางเช่นกัน
ทรัมป์เคยสัญญาว่าจะยุติสงครามในกาซาอย่างรวดเร็วในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ การแก้ไขปัญหายังไม่สำเร็จ โดยนับเป็นเวลา 7 เดือนแล้วในสมัยที่สองของเขา
ช่วงเริ่มต้นสมัยสองของทรัมป์นั้นมีการหยุดยิงในสงครามกาซาเพียง 2 เดือน ก่อนสิ้นสุดลงด้วยการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ราว 400 คน ขณะเดียวกัน ภาพเด็กและประชาชนชาวปาเลสไตน์ที่อดอยากในกาซาแพร่สะพัดไปทั่วโลก ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อิสราเอลเรื่องสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายในกาซา
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกคนระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า เขาต้องการให้สงครามยุติ และต้องการสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคนในภูมิภาค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)