
รัฐบาลอินเดียประกาศในวันนี้ (28 ส.ค.) ว่า จะขยายเวลาการยกเว้นภาษีนำเข้าฝ้ายไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย. โดยการตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศ ซึ่งกำลังเผชิญความท้าทายจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
อินเดียถือเป็นผู้ผลิตฝ้ายรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยก่อนหน้านี้ได้ลดภาษีนำเข้าฝ้ายจากอัตรา 11% ลงเหลือ 0% และล่าสุดได้เลื่อนเวลายกเว้นภาษีดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือน
ด้านสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกเสื้อผ้าและเครื่องประดับรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ได้บังคับใช้มาตรการภาษีใหม่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็นสองเท่า สูงสุดถึง 50% สำหรับสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งการส่งออกของอินเดียไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าเกือบ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 5.8% ตามหลังจีน เวียดนาม และบังกลาเทศ
อตุล คณาทรา ประธานสมาคมฝ้ายอินเดียระบุว่า การยืดเวลายกเว้นภาษีฝ้ายจะช่วยให้บริษัทสิ่งทอสามารถนำเข้าฝ้ายได้ในราคาที่ถูกลง พร้อมทั้งลดแรงกดดันจากความต้องการในสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวลง
นักวิเคราะห์คาดว่าการขยายเวลายกเว้นภาษีฝ้ายครั้งนี้อาจทำให้ปริมาณการนำเข้าฝ้ายของอินเดียพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.2 ล้านมัดในปีนี้ และมีแนวโน้มจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยปีการตลาดฝ้ายรอบใหม่ของอินเดียจะเริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.ปีนี้ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)