
วันนี้ (28 ส.ค.) รัฐสภามาเลเซียได้มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐฉบับใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปฏิรูประบบให้โปร่งใสและอุดช่องโหว่การทุจริตคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวกลับเผชิญเสียงวิจารณ์จากกลุ่มภาคประชาสังคมและสส. ฝ่ายค้าน ที่แสดงความกังวลว่าอาจมีช่องโหว่และขาดกลไกการตรวจสอบที่เป็นอิสระ
ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียพยายามอย่างยิ่งที่จะปฏิรูปการบริหารการคลังเพื่อป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล อันเนื่องมาจากคดีทุจริตดังเช่นกรณีอื้อฉาวของกองทุน 1MDB ที่มีมูลค่าความเสียหายนับหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังต้องต่อสู้กับปัญหาการรั่วไหลและการยักยอกงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด โดยเฉพาะปัญหาการอนุมัติสัญญาโครงการของรัฐผ่านวิธีการเจรจาต่อรองแทนการเปิดประมูลอย่างโปร่งใส
สำหรับกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่นี้ จะทำหน้าที่เป็นกรอบการทำงานกลางสำหรับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน พร้อมกันนี้ยังได้กำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น การแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ (rent-seeking), การทำสัญญาช่วง (subcontracting) และการเข้าแทรกแซงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
อามีร์ ฮัมซะฮ์ อาซีซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปิดการอภิปรายในสภาว่า “ร่างกฎหมายฉบับนี้จะกำหนดภาระผูกพันและอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้เป็นไปตามมาตรฐานและขั้นตอนเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการตีความที่แตกต่าง การไม่ปฏิบัติตาม หรือการใช้อำนาจโดยมิชอบ”
หลังจากนี้ ร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนจะประกาศใช้เป็นกฎหมายในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
อย่างไรก็ดี กลุ่ม CSO Platform for Reform ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมกว่า 70 แห่ง ได้แสดงความกังวลต่อบทบัญญัติบางมาตรา โดยชี้ว่าอาจเปิดช่องให้รัฐมนตรีมีอำนาจควบคุมการตัดสินใจมากเกินไป จนถึงขั้นสามารถยกเว้นบางโครงการออกจากข้อบังคับของกฎหมายใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับข้อกังวลของสส. ฝ่ายค้านบางส่วนเช่นกัน
ด้านอามีร์ ฮัมซะฮ์ ได้ชี้แจงต่อข้อกังวลดังกล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเจตนาจำกัดอำนาจของรัฐมนตรีคลัง ไม่ใช่การเพิ่มอำนาจแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังจะพิจารณาทบทวนแก้ไขกฎระเบียบเดิมที่มีอยู่ เพื่อจำกัดอำนาจของรัฐมนตรีในการประกาศยกเว้นหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างให้รัดกุมยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)