สว.ข้ามขั้วรุมซักฟอก “เคนเนดี” จี้ให้ลาออก ปมแหกนโยบายวัคซีนยุคทรัมป์

บรรยากาศในที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) เป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อ รอเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกสมาชิกวุฒิสภาจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันรุมซักฟอกอย่างหนักถึงนโยบายด้านวัคซีนที่สวนทางกับแนวทางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างสิ้นเชิง โดยประเด็นร้อนอยู่ที่การสั่งปลดฟ้าผ่า ซูซาน โมนาเรซ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว

ด้านปธน.ทรัมป์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างงานเลี้ยงพบปะกับกลุ่มผู้นำทางธุรกิจที่ทำเนียบขาว ถึงกรณีของเคนเนดีว่า “เขาเป็นคนเจตนาดี แต่ก็มีความคิดที่แตกต่างออกไปบ้าง”

และเมื่อถูกถามว่ายังเชื่อมั่นในการทำงานของเคนเนดีหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า “ผมรับรองได้เลยว่าหลายคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ชื่นชอบ อาร์เอฟเค จูเนียร์ ตัวผมเองก็เช่นกัน แต่เขาก็มีมุมมองที่ต่างออกไป และเราก็ต้องเปิดใจรับฟังทุกความคิดเห็น”

สว.บิลล์ แคสซิดี จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นแพทย์และเคยมีบทบาทสำคัญในการโหวตรับรองตำแหน่งของเคนเนดี เป็นผู้เปิดฉากซักฟอกอย่างหนัก โดยตั้งคำถามถึงการยกเลิกสัญญาวัคซีนโควิด-19 มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ พร้อมยกตัวอย่างกรณีแพทย์และผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนเพื่อป้องกันตนเองจากโรคร้ายนี้ได้

นอกจากการยกเลิกสัญญาจัดซื้อวัคซีนแล้ว เคนเนดียังได้สั่งระงับงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สำหรับงานวิจัยเทคโนโลยี mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวัคซีนโควิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคของทรัมป์

“ผมมองว่านี่คือการปฏิเสธวัคซีนไม่ให้ถึงมือประชาชน” แคสซิดีกล่าวสรุป

“คุณเข้าใจผิดถนัด” เคนเนดีสวนกลับ

แคสซิดี จากรัฐลุยเซียนา ยังได้ยกย่องปธน.ทรัมป์ที่ริเริ่มโครงการ Operation Warp Speed จนสามารถเร่งรัดการพัฒนา ผลิต และแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ได้สำเร็จในปี 2563 ก่อนจะถามเคนเนดีว่า เขาเห็นด้วยหรือไม่ว่าทรัมป์สมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากผลงานชิ้นนี้ ซึ่งเคนเนดีก็ตอบว่าเห็นด้วย

จากนั้นแคสซิดีจึงย้อนเกล็ดทันทีว่า เหตุใดเคนเนดีจึงเคยกล่าวว่าวัคซีนคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าโควิด ซึ่งเคนเนดีปฏิเสธว่าไม่เคยพูดเช่นนั้น แต่ก็ไม่ยอมรับว่าวัคซีนช่วยชีวิตผู้คนได้ ก่อนจะยอมรับในภายหลังว่าวัคซีนช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้จริง แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่ชัด

ท่าทีของแคสซิดีและสว.รีพับลิกันอีกสองคน สะท้อนความลำบากใจที่ต้องคัดค้านนโยบายของเคนเนดี โดยไม่ให้กระทบไปถึงตัวปธน.ทรัมป์ผู้แต่งตั้งเขามา

ทั้งนี้ ประเด็นการปลดโมนาเรซกลายเป็นหัวข้อที่ถูกซักถามอย่างเผ็ดร้อนที่สุด เคนเนดีปกป้องการตัดสินใจของตนเอง พร้อมกล่าวเสริมว่าอาจต้องมีการปลดคนเพิ่มอีก

เคนเนดีกล่าวว่า ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด CDC โกหกคนอเมริกันทั้งเรื่องหน้ากาก การเว้นระยะห่าง การปิดโรงเรียน และประสิทธิภาพของวัคซีน “ผมจำเป็นต้องปลดคนพวกนั้นออกไป เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

อย่างไรก็ตาม ในบทความแสดงทัศนะที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) โมนาเรซระบุว่าเธอถูกสั่งให้ต้องอนุมัติคำแนะนำเรื่องวัคซีนล่วงหน้า และให้ปลดเจ้าหน้าที่ประจำของ CDC ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นความพยายามที่จะบั่นทอนมาตรฐานวัคซีนของประเทศ

เคนเนดีโต้กลับว่าโมนาเรซโกหก และเขาไม่เคยสั่งให้เธออนุมัติเรื่องใดล่วงหน้า แต่ยอมรับว่าได้สั่งให้ปลดเจ้าหน้าที่จริง ซึ่งเธอปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เคนเนดีได้เปลี่ยนแปลงนโยบายวัคซีนหลายอย่างที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เช่น การจำกัดกลุ่มผู้มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิด และการปลดคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ CDC ทั้ง 17 คน แล้วแต่งตั้งนักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีนบางส่วนเข้าไปแทนที่

การปลดโมนาเรซได้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เสียงวิจารณ์เคนเนดีดังขึ้นไปอีก โดยหลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CDC อีก 4 คนยื่นใบลาออกเพื่อประท้วงนโยบายต่อต้านวัคซีนและข้อมูลเท็จจากทีมงานของเคนเนดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 68)