ญี่ปุ่นเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.68 ล้านล้านเยนในเดือนก.ค. หดตัว 19.1% จากปีก่อน

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นแถลงวันนี้ (8 ก.ย.) ว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนก.ค. ยังคงเกินดุลถึง 2.68 ล้านล้านเยน (1.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แม้ตัวเลขดังกล่าวจะหดตัวลง 19.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อันเป็นผลพวงจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นจนบั่นทอนผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างแดน ประกอบกับภาคการส่งออกที่แผ่วลง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด พบว่าดุลการค้าสินค้ายังคงขาดดุลที่ 1.894 แสนล้านเยน โดยมูลค่าการส่งออกซบเซาลง 4.9% เหลือ 9.01 ล้านล้านเยน โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และเหล็กกล้าที่ชะลอตัว ขณะที่ฝั่งนำเข้าก็ลดลง 7.4% อยู่ที่ 9.20 ล้านล้านเยน อานิสงส์จากราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง

สำหรับดุลรายได้ขั้นปฐมภูมิ ซึ่งสะท้อนกำไรที่ญี่ปุ่นทำได้จากการลงทุนในต่างประเทศนั้น เกินดุลถึง 4.07 ล้านล้านเยน แต่ก็ลดลง 11.6% จากพิษเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นในเดือนดังกล่าว

ส่วนดุลบริการยังคงเป็นตัวฉุด โดยขาดดุลเพิ่มจาก 5.81 แสนล้านเยน เป็น 6.95 แสนล้านเยน หลังค่าใช้จ่ายด้านทรัพย์สินทางปัญญาสูงขึ้น ขณะที่ดุลการท่องเที่ยวเกินดุลลดลงเล็กน้อยเหลือ 5.29 แสนล้านเยน สะท้อนว่าเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมากกว่าที่คนญี่ปุ่นขนไปใช้จ่ายในต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังยอมรับว่า “เป็นการยาก” ที่จะประเมินผลกระทบจากกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แต่ชี้ว่า ภาษีของสหรัฐฯ ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิได้กัดเซาะมูลค่าการส่งออกยานยนต์และเหล็กกล้าของญี่ปุ่นไปอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ในเดือนก.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าญี่ปุ่นราว 3.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.4% ขณะที่ชาวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศ 1.21 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 14.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 68)