
GCAP GOLD ชี้ ราคาทองคำยังคงพุ่งสูงต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง และความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ โดยเฉพาะแรงกดดันกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ป่วนเสถียรภาพและความเป็นอิสระของเฟด หากเฟดเสียความเป็นอิสระจริง ทองคำอาจพุ่งแรงต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์ แนะสบช่องทยอยลงทุน วางกลยุทธ์รอย่อตัว เข้าซื้อที่ 3,555/3,525 ดอลลาร์
น.ส.อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังจากทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ 3,600 ดอลลาร์/ออนซ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนก.ย.นี้ ซึ่งความคาดหวังดังกล่าว จะดึงดูดกระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้เปรียบในช่วงดอกเบี้ยขาลง
ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตา โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ เรื่องการโจมตีและแรงกดดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเฟด ซึ่งทำให้ตลาดกังวลถึงเสถียรภาพ และความเป็นอิสระของธนาคารกลางมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนจับตาคำตัดสินสำคัญเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ว่าการเฟด “ลิซา คุก” โดยหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จะยิ่งเป็นการตอกย้ำแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ประเมินว่า หากเฟดสูญเสียความเป็นอิสระ ราคาทองคำอาจพุ่งแตะเกือบ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์
อีกทั้งตลาดทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง และเมื่อบวกเข้ากับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และการค้าโลกที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งปัจจัยดังกล่าว หนุนให้ภาพรวมทองคำยังเป็นบวก โดยเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจทั้งในระยะกลางถึงระยะยาว
หัวหน้านักวิเคราะห์ GCAP GOLD กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทฯ แนะนำกลยุทธ์ รอย่อตัวเข้าซื้อที่ 3,555/ 3,525 ดอลลาร์ เนื่องจากภาพรวมทองคำยังเป็นบวก โดยตลาดจับตาท่าทีดอกเบี้ยเฟด รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่จะประกาศเพิ่มเติม ซึ่งหากท่าทีดอกเบี้ยเฟดยังคงส่งสัญญาณไปในทิศทางผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสขึ้นทดสอบโซนต้าน 3,630-3,650 ดอลลาร์ (ราคาทองคำไทยประมาณ 54,800/ 55,000 บาท) หากยังเบรกโซนนี้ขึ้นไปได้ จะเป็นการเปิดทางสู่ 3,700 ดอลลาร์ต่อไป (ราคาทองคำไทยประมาณ 55,500 บาท)
ดังนั้น นักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะและรอเล่นสั้น อาจพิจารณาการย่อตัวในช่วง 1-2 วันแรกของสัปดาห์ หากราคาทองคำย่อตัวลงแต่ไม่หลุดแนวรับระยะสั้น 3,555/ 3,525 ดอลลาร์ ให้ทยอยเข้าซื้อเก็บเพื่อเล่นรอบ (ราคาทองคำไทย อาจอยู่ประมาณ 53,850/ 53,600 บาท)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)