ดีลอยท์คาดยอดขายช่วงวันหยุดสหรัฐฯ โตช้าสุดนับจากยุคโควิด เซ่นพิษเศรษฐกิจ–นโยบายการค้า

ดีลอยท์ (Deloitte) คาดการณ์ว่ายอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐฯ จะเติบโตในอัตราช้าที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว

ไบรอัน แมคคาร์ธี ผู้บริหารของดีลอยท์กล่าวว่า ผู้บริโภคอาจเร่งตุนสินค้าล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากภาษีและต้นทุนเงินเฟ้ออื่น ๆ พร้อมเสริมว่า เงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลให้ยอดใช้จ่ายโดยรวมในช่วงเทศกาลเพิ่มขึ้น

ดีลอยท์คาดว่า ยอดขายในสหรัฐฯ ช่วงเดือนพ.ย. 2568 – ม.ค. 2569 จะปรับตัวขึ้น 2.9% – 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัว 4.2% โดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้คาดว่ายอดขายรวมอยู่ที่ 1.61–1.62 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.57 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2567

สำหรับยอดขายออนไลน์ คาดว่าจะเติบโต 7–9% ในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้ ใกล้เคียงกับการขยายตัว 8% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายหน้าร้านคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2–2.2% ชะลอลงจากปีก่อนที่เติบโต 3.4%

ทั้งนี้ การจับจ่ายช่วงปลายปีถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของผู้ค้าปลีก แต่ยังเผชิญความไม่แน่นอนด้านอุปสงค์และแรงกดดันจากเงินเฟ้อ รวมถึงผลกระทบจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังสร้างความผันผวนต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เมื่อต้นเดือน ชี้ว่า การใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีนี้อาจลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่เริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)