ฟอน เดอร์ เลเยน ป้องดีล EU-สหรัฐฯ ดีสุดแล้ว ชาติอื่นเจอภาษีสูงกว่า

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าที่สหภาพยุโรป (EU) บรรลุร่วมกับสหรัฐฯ ถือเป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งยังเอื้อให้ภาคธุรกิจของ EU ชิงความได้เปรียบเหนือบรรดาคู่แข่งจากนานาชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ

ฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรปในวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า “เราได้ยืนหยัดจนยุโรปบรรลุข้อตกลงที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และได้วางรากฐานให้บริษัทต่าง ๆ ของเราอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เพราะคู่แข่งโดยตรงบางรายต้องแบกรับภาระภาษีของสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงกว่ามาก”

ถ้อยแถลงของเธอมีขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์จากบรรดาสมาชิกรัฐสภายุโรป เนื่องจากสาระสำคัญของข้อตกลงคือ EU จะยอมลดอัตราภาษีของตนลง แต่สหรัฐฯ กลับตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจาก EU ที่อัตรา 15% ทั้งนี้ รัฐสภายุโรปจะต้องลงมติในข้อเสนอของ EC ว่าด้วยการยกเลิกภาษีต่อสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ฟอน เดอร์ เลเยน ชี้แจงต่อไปว่า แม้เป็นความจริงที่คู่แข่งบางรายได้รับการลดหย่อนภาษีจากสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่า 15% ที่ EU ต้องเผชิญ ทว่าจุดแข็งของ EU คือการยืนกรานจนเป็นผลสำเร็จที่จะไม่ต้องแบกรับภาระภาษีที่มีอยู่เดิมซ้อนเข้ามาอีก อันเป็นเงื่อนไขที่คู่แข่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับ

ประธาน EC ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปี EU ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านยูโร (5.852 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) อันเป็นมูลค่ามหาศาลที่หล่อเลี้ยงการจ้างงานของผู้คนหลายล้าน

ฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวว่า “ข้อตกลงฉบับนี้เป็นหลักประกันเสถียรภาพอันสำคัญยิ่งในความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสหรัฐฯ ในยามที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงอย่างรุนแรง ลองนึกดูว่าหากสงครามการค้าปะทุขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ผลสะท้อนที่เกิดขึ้นจะวุ่นวายเพียงใด”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)