ทองปิดบวก 12.80 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (12 ก.ย.) และยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์ โดยสัญญาณการอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ หนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในการประชุมสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ +0.35% ปิดที่ 3,686.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การจ้างงานที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ผันผวนซึ่งถูกสะท้อนในราคาตลาด รวมถึงแรงกดดันให้เฟดต้องลดดอกเบี้ย กำลังหนุนราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ว่าการยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอ และการปรับทบทวนตัวเลขซึ่งลบออกไปถึง 911,000 ตำแหน่งในรอบปีที่ผ่านมา สะท้อนแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 เดือนในเดือนส.ค. แต่บรรดานักลงทุนให้น้ำหนักกับความอ่อนแอในตลาดแรงงานมากกว่าความกังวลด้านเงินเฟ้อ

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ถึงการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ขณะที่โอกาสในการปรับลดมากถึง 0.50% เริ่มลดลง

การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นในจังหวะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ากดดันให้ เฟดลดดอกเบี้ย และมีรายงานว่าทรัมป์พยายามแทรกแซง รวมถึงความพยายามปลดผู้ว่าการ ลิซา คุก ออกจากตำแหน่ง

นักวิเคราะห์จาก UBS คาดว่า ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นแตะ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ภายในกลางปีหน้า

ทองคำปรับตัวขึ้นแล้ว 39% นับตั้งแต่ต้นปี และโดยทั่วไปมักได้แรงหนุนในสภาวะแวดล้อมที่ดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับแผนการปรับกฎเกณฑ์การนำเข้าและส่งออกทองคำให้ง่ายขึ้นด้วยการลดขั้นตอนการออกใบอนุญาต

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 68)