ศาลตัดสิน Amazon ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ก.ย.) ผู้พิพากษาได้ตัดสินว่า อะเมซอน (Amazon) ทำผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจริง จากกรณีที่บริษัทเก็บข้อมูลการชำระเงินของสมาชิก Prime ก่อนที่จะแจ้งเงื่อนไขการให้บริการ คำตัดสินนี้ส่งผลให้คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) เป็นฝ่ายได้เปรียบในเบื้องต้น

ผู้พิพากษาได้มีคำตัดสินในคดีที่ FTC กล่าวหาว่า อะเมซอนใช้วิธีหลอกลวงเพื่อให้คนสมัครสมาชิก Prime คำตัดสินนี้ทำให้อะเมซอนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการไต่สวนคดีทันที แม้โฆษกของบริษัทจะยังคงยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดก็ตาม

ในการไต่สวน FTC เตรียมชี้ให้ศาลเห็นว่า อะเมซอนสมัครบริการ Prime ให้ลูกค้าหลายสิบล้านคนโดยที่พวกเขาไม่ยินยอม นอกจากนี้ บริษัทยังจงใจสร้างขั้นตอนการยกเลิกที่ซับซ้อน ทำให้ลูกค้าอีกหลายสิบล้านคนไม่สามารถยกเลิกบริการได้สำเร็จ

FTC ระบุว่าการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองความเชื่อมั่นผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ (Restore Online Shoppers Confidence Act หรือ ROSCA)

คริส มูฟาร์ริจ หัวหน้าสำนักคุ้มครองผู้บริโภคของ FTC กล่าวว่า “คำตัดสินในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า อะเมซอนหลอกลวงผู้บริโภคชาวอเมริกันจริง โดยไม่ยอมเปิดเผยเงื่อนไขบริการ Prime ทั้งหมดก่อนจะเก็บข้อมูลการชำระเงิน” และเสริมว่า “FTC ในยุคทรัมป์-แวนซ์ จะเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้บริโภคอย่างเต็มที่”

นอกจากนี้ ศาลยังตัดสินว่าหาก FTC พิสูจน์ได้ว่ามีการละเมิดกฎหมายจริง ผู้บริหารของอะเมซอนสองคนจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย และยังสั่งห้ามไม่ให้อะเมซอนหยิบยกข้อโต้แย้งว่ากฎหมาย ROSCA ไม่ครอบคลุมกรณีการสมัครสมาชิก Prime มาสู้คดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)