Turning Point USA ตั้ง “เอริกา เคิร์ก” เป็น CEO คนใหม่ หลังสามีถูกลอบสังหาร

คณะกรรมการของ Turning Point USA มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งให้ เอริกา เคิร์ก ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ขององค์กรเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.)

เอริกาเป็นภรรยาม่ายของ ชาร์ลี เคิร์ก นักกิจกรรมฝ่ายอนุรักษนิยมผู้ก่อตั้งองค์กรแห่งนี้ ซึ่งเพิ่งถูกลอบสังหารในมหาวิทยาลัยเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยองค์กรนี้มีเป้าหมายเพื่อปลุกพลังคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนับสนุนพรรครีพับลิกัน

การแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่อนาคตขององค์กรกำลังถูกจับตามองอย่างหนัก โดยเฉพาะบทบาทในการดึงเสียงคนรุ่นใหม่สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า หลังจากที่ชาร์ลีเสียชีวิต

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยยกย่องชาร์ลีว่าเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้เขาชนะใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรุ่นใหม่จนคว้าชัยชนะสู่ทำเนียบขาวได้สำเร็จ

คณะกรรมการขององค์กรได้ออกแถลงการณ์ว่า “ชาร์ลีเตรียมพวกเราทุกคนให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้มาโดยตลอด เขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้าง Turning Point USA ให้แข็งแกร่งพอที่จะผ่านพ้นบททดสอบที่หนักหนาที่สุดไปได้ และในวันนี้ เราจึงขอประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า เอริกา เคิร์ก จะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอและประธานบอร์ดคนใหม่ของ Turning Point USA”

สำหรับคดีลอบสังหาร เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ไทเลอร์ โรบินสัน วัย 22 ปี ว่าเป็นผู้ใช้ปืนไรเฟิลยิงชาร์ลี เคิร์ก วัย 31 ปี จากบนดาดฟ้าเพียงนัดเดียวจนเสียชีวิต ขณะที่เขากำลังจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยยูทาห์ แวลลีย์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.

หลังเกิดเหตุ เอริกา วัย 36 ปี ได้ประกาศผ่านวิดีโอว่าจะขอสานต่อภารกิจของสามีในการปลุกกระแสแนวคิดอนุรักษนิยมในหมู่คนหนุ่มสาวชาวอเมริกันต่อไป ซึ่งตัวเธอเองก็มีความเชื่อในศาสนาคริสต์และยึดมั่นในค่านิยมอนุรักษนิยมเช่นเดียวกับสามีผู้ล่วงลับ

“พวกคุณไม่รู้หรอกว่าได้จุดไฟอะไรขึ้นในใจของภรรยาคนนี้แล้ว เสียงร้องของหญิงม่ายคนนี้จะดังกึกก้องไปทั่วโลกดั่งเสียงกู่ร้องออกศึก” เอริกากล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 68)