
ยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (19 ก.ย.) ว่า เกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ ในประเด็นที่เป็นข้อพิพาท ทั้งเรื่องข้อจำกัดวีซ่าแรงงานและภาษียานยนต์ ซึ่งล้วนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ยอแถลงต่อสื่อมวลชนหลังเดินทางกลับจากการเจรจาการค้า ณ กรุงวอชิงตันว่า เกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขปัญหาวีซ่าสำหรับแรงงานเกาหลีอย่างเร่งด่วน หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้บุกเข้าตรวจค้นโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ของฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ในรัฐจอร์เจียเมื่อเดือนที่ผ่านมา และจับกุมแรงงานชาวเกาหลีราว 300 คน ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยอชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี และทำให้สถานการณ์ของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ภายใต้ข้อตกลงการค้าที่บรรลุเมื่อเดือนก.ค. เกิดความคลุมเครือ
อย่างไรก็ตาม การสรุปข้อตกลงยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่เห็นพ้องในโครงสร้างและการดำเนินงานของโครงการลงทุนมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของข้อตกลงเก็บภาษีนำเข้า 15% สำหรับสินค้าเกาหลีใต้
ยอไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เนื่องจากการเจรจายังคงเป็นเรื่องอ่อนไหว แต่ย้ำว่าทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้
สำหรับกรณีภาษียานยนต์นั้น ยอระบุว่า เกาหลีใต้ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และพยายามอย่างเต็มที่ในการหาทางออก หลังจากที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงลดอัตราภาษีรถยนต์เหลือ 15% ซึ่งทำให้เกาหลีใต้เสียเปรียบ อีกทั้งยังย้ำกับฝ่ายสหรัฐฯ ว่า สถานการณ์ของเกาหลีใต้นั้นแตกต่างจากญี่ปุ่น โดยมีข้อมูลและการวิเคราะห์สนับสนุน
ทั้งนี้ ยอกล่าวว่า เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประโยชน์ของชาติ พร้อมเสริมว่า การเปิดเผยรายละเอียดอาจส่งผลเสียต่อความพยายามของเกาหลีใต้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 68)