หุ้นเทคฯอินเดียส่อร่วงหนักวีคนี้ ผลกระทบทรัมป์ขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B

หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกซอฟต์แวร์ของอินเดียส่อแววร่วงหนักสุดในรอบเกือบ 6 เดือนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า H-1B

Nifty IT Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติอินเดีย (NSE) ร่วงลง 5.6% ในสัปดาห์นี้จนถึงวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มนี้ลดลง 20% แล้วในปีนี้ และกลายเป็นดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ทำผลงานแย่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ

บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ 10 แห่งใน Nifty IT Index สูญเสียมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ โดยมูลค่าส่วนใหญ่ที่สูญเสียไปเป็นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tata Consultancy Services Ltd. และ Infosys Ltd.

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (19 ก.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในประกาศปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า H-1B จากเดิมหลักพันดอลลาร์เป็น 100,000 ดอลลาร์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมบริการซอฟต์แวร์ของอินเดีย ที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่แล้วจากการลดจำนวนพนักงานสายไอทีและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

ไม่นานหลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการดังกล่าว สมาคมบริษัทซอฟต์แวร์และบริการแห่งชาติของอินเดีย (Nasscom) ซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมไอที ได้แสดงความกังวลว่ามาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีจากอินเดีย ซี่งมักส่งผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีไปทำงานในสหรัฐฯ

Nasscom เตือนว่า มาตรการใหม่อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบนิเวศนวัตกรรมของสหรัฐฯ เอง รวมถึงตลาดงานทั่วโลก โดยชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานและการบริหารจัดการ เนื่องจากต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียแถลงว่า “มาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรม เนื่องจากครอบครัวมากมายจะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลหวังว่าผลกระทบดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมโดยรัฐบาลสหรัฐฯ”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 68)