CONSENSUS: TNP โค้งสุดท้ายรับมาตรการ”คนละครึ่ง” เพิ่มสินค้ามาร์จิ้นสูงดันผลงานกลับมาโต

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ.ธนพิริยะ [TNP] รับอานิสงส์บวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมนำมาใช้ โดยเฉพาะการฟื้น “คนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้ง หนุนผลงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีกลับมาเติบโตโดดเด่น เก็งเป็นไตรมาสผลงานดีที่สุด จากช่วงไฮซีซั่นการจับจ่ายใช้สอยปลายปีด้วย อีกทั้งยังนำสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงเข้ามาขายเพิ่มเติม โดยเฉพาะเครื่องสำอางเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้ดีต่อเนื่อง

ราคาหุ้น TNP เที่ยงวันนี้อยู่ที่ 3.28 บาท ลดลง 0.04 บาท (-1.20%)

ตารางนี้แสดงคำแนะนำจากโบรกเกอร์ต่างๆ โดยทุกบริษัทให้คำแนะนำ “ซื้อ” กับราคาเป้าหมายอยู่ในช่วง 4.00-4.10 บาทต่อหุ้น

โบรกเกอร์คำแนะนำราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
กรุงศรีซื้อ4.10
กสิกรไทยซื้อ4.00
อินโนเวสท์ เอกซ์ซื้อ4.00
โกลเบล็กซื้อ4.00

 

นางสาวธรีทิพย์ วงษ์แสงไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า TNP เป็นหนึ่งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นการบริโภคในประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงการการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะออกมา เป็นปัจจัยหนุนต่อผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะยอดขายมีแนวโน้มการฟื้นตัวโดดเด่นมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะหากมีโครงการคนละครึ่งออกมาอีกครั้งจะทำให้ TNP ได้อานิสงส์เต็มที่

ปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเห็นผลในช่วงไตรมาส 4/68 หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ ทำให้ไตรมาส 4/68 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นสุดของ TNP และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 18.5% จากปีก่อน 17.6% เป็นผลจาก Economies of Scale รวมถึงแผนการปรับ Product Mix ขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มเครื่องสำอาง เป็นต้น

นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มองว่า TNP ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่จะได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะการปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่งที่นำกลับมาผ่านแอปฯเป๋าตัง ซึ่ง TNP ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในครั้งก่อน ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่อผลงานของ TNP โดยเฉพาะในส่วนของยอดขายในช่วงไตรมาส 4/68 หากโครงการคนละครึ่งมีกำหนดการเริ่มได้ทันปีนี้

นอกจากนี้ อานิสงส์ของโครงการคนละครึ่งที่มีโอกาสนำกลับมา ทำให้จำกัด Downside ในด้านการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ TNP ที่ในช่วง 8 เดือนยังติดลยอยู่ 2-3% และพลิกกลับมาฟื้นตัวได้ 2% หากคนละครึ่งเริ่มได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แต่ภาพในไตรมาส 3/68 ยังมองว่าผลงานของ TNP จะยังทรงตัวจากไตรมาส 2/68

 

บทวิเคราะห์ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า TNP แม้ว่ายังไม่เห็นการเติบโตที่โดดเด่นมากในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่คาดว่าหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะนำกลับมาอีกครั้ง จะเป็นปัจจัยที่หนุนต่อผลงานของ TNP ได้ในช่วงไตรมาส 4/68 คาดว่าจะเห็นยอดขายที่เติบโตโดเด่นที่สุด เพราะมีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยเข้ามาควบคู่กับช่วงไฮซีซั่น

นอกจากนี้ TNP ยังมีการปรับกลยุทธ์ของสินค้าที่มาจำหน่าย โดยการนำสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงเข้ามาขาย เช่น เครื่องสำอาง เป็นกลุ่มสินค้าที่สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทได้ในระดับที่ดีราว 18% ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ TNP ยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 68)