
เจิ้ง ลี่จวิน รองนายกรัฐมนตรีไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า ไต้หวันจะไม่ยอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้บริษัทไต้หวันผลิตเซมิคอนดักเตอร์ “ครึ่งหนึ่ง” ในสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ News Nation ในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สหรัฐฯ จะเสนอให้ไต้หวันเพิ่มสัดส่วนการผลิตชิปในสหรัฐฯ เป็น 50-50 จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ผลิตในไต้หวัน
หลังเดินทางกลับจากวอชิงตันถึงไต้หวันในวันนี้ (1 ต.ค.) รองนายกฯ ไต้หวัน ยืนยันว่า “ทีมเจรจาของเราไม่ได้ให้คำมั่นใด ๆ เกี่ยวกับการแบ่งสัดส่วนการผลิตชิปเป็น 50-50 ขอให้มั่นใจว่า ประเด็นนี้ไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาหารือในการเจรจาครั้งนี้ และเราจะไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวแน่นอน”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไต้หวันในอัตรา 20% เนื่องจากสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าไต้หวันมหาศาล โดย 90% ของการขาดดุลการค้ามาจากสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์
บริษัท TSMC ของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ผลิตชิปให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Nvidia ปัจจุบัน TSMC กำลังลงทุน 1.65 แสนล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ แต่กำลังการผลิตชิปส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในไต้หวัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)