
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.68 อยู่ที่ระดับ 48.0 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากเดือนส.ค.68 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีฯ ปัจจุบัน และอีก 3 เดือนข้างหน้า แต่ในภาพรวมของไตรมาส 3/2568 ดัชนีฯ ในปัจจุบันปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากความเชื่อมั่นภาคการผลิตที่ปรับลดลง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ส่วนดัชนีฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว และผลดีของโครงการคนละครึ่งของภาครัฐ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในปัจจุบัน โดยรวมทั้งไตรมาส 3/2568 ดัชนีฯ ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากความเชื่อมั่นภาคการผลิตที่ลดลงในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับส่งออก โดยองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อ และการผลิต ปรับลดลงมาก โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม อาทิ อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง ส่วนหนึ่งจากการเร่งส่งออกไปแล้วในไตรมาสก่อน ๆ และอีกส่วนหนึ่งจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าชะลอตัว หลัง Reciprocal tariffs มีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ดี กลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกลุ่มธุรกิจเดียวที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน และอยู่เหนือระดับ 50 อย่างต่อเนื่อง จากผลดีของวัฎจักรอิเล็กทรอนิกส์ (electronic cycle) ทำให้การส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และ semiconductor ยังขยายตัวดี
สำหรับความเชื่อมั่นภาคที่มิใช่การผลิต ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม และร้านอาหาร ตามคำสั่งซื้อ และปริมาณการให้บริการที่ปรับเพิ่มขึ้นจากผลดีของมาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในภาคมิใช่การผลิตโดยรวม ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า สำหรับกลุ่มก่อสร้าง ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่ทำได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ โดยรวมในไตรมาส 3/2568 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากความเชื่อมั่นภาคมิใช่การผลิต ที่เพิ่มขึ้นในทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะด้านปริมาณการให้บริการและคำสั่งซื้อ นำโดยกลุ่มโรงแรม และร้านอาหาร ตามการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว รวมทั้งกลุ่มค้าปลีก ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากโครงการคนละครึ่งของภาครัฐ และส่วนหนึ่งจากการใช้จ่ายสำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่
ขณะที่ความเชื่อมั่นภาคการผลิต ปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน นำโดยกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนหนึ่งจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลงจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ และผลกระทบของ Reciprocal tariffs ต่อการส่งออก ทำให้ความเชื่อมั่นในหลายกลุ่มธุรกิจปรับลดลง อาทิ น้ำมันปาล์ม ผักผลไม้แปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)