
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุม กมธ.ฯ จะมีการพิจารณาปัญหาการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยเฉพาะกรณีนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ “เบน สมิธ” ที่ถูกระบุว่าอาจเป็นหัวขบวนระดับแมมมอธของเครือข่ายสแกมเมอร์ในกัมพูชา ซึ่งมีการนำเงินผิดกฎหมายมหาศาลเข้ามาฟอกในประเทศไทย ผ่านธุรกิจพลังงาน ธนาคาร บริษัทเอกชน และอาจรวมถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่รัฐบาลชุดก่อนผลักดัน โดยมีเม็ดเงินสูงถึงหลายแสนล้านบาท
โดยเตรียมเชิญ หน่วยงานหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมถึงอาจมีการเชิญร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ มาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งจะต้องรอดูการพิจารณาในกมธ.ฯ วันนี้ก่อน ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การทลายหัวขบวนแก๊งสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่เป็นของโลก
ส่วนการการพิจารณาเรื่องเงินสินบน 40 ล้านบาท ตามที่นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกมาระบุนั้นนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีการเชื่อมโยงกับเรื่องของนายเบนจามิน มากน้อยเพียงใด ซึ่งเรามีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน หากมีความเกี่ยวข้องจริงก็จะเป็นเรื่องที่ใหญ่มากและใหญ่กว่าเดิม เพราะแม้แต่รัฐมนตรีก็สามารถซื้อได้ เป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการถามกันต่อไป
“หากนายไชยชนกยังถูกซื้อ แล้วหน่วยงานอื่นๆ จะถูกซื้อไปด้วยหรือไม่ จะมีการจ่ายสินบนในลักษณะเช่นนี้ด้วยหรือไม่ สิ่งที่นายไชยชนกพูดถ้าจะมีประโยชน์ คือการทำให้เราเกิดคำถามและเข้าใจว่าวันนี้ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังปราบไม่ได้สักครั้ง เพราะหน่วยงานของรัฐอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับสินบนด้วยหรือไม่”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ต.ค. 68)