
ราคาทองแดงยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง หลังทำสถิติปรับขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบปี ขณะที่นักลงทุนจับตาแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และปัญหาอุปทานตึงตัว สืบเนื่องจากกรณีที่เหมืองกราสเบิร์ก (Grasberg) ของบริษัทฟรีพอร์ต-แมคโมแรน (Freeport-McMoRan) ในอินโดนีเซีย ต้องระงับการผลิตไปตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. หลังเกิดเหตุโคลนถล่มรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต การหยุดชะงักครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานทองแดงโลกในปีนี้ ต่อจากปัญหาที่เหมืองคาโมอา-คาคูลา (Kamoa-Kakula) ในคองโก และเหมืองเอล เตเนียนเต (El Teniente) ในชิลี
ราคาทองแดงปรับตัวขึ้น 0.35% ณ เวลา 11:44 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ ขณะที่ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดโลหะลอนดอน (LME) ปรับตัวสูงขึ้นถึง 0.8% ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
ตลาดจะจับตาไปที่การรายงานข้อมูลสำคัญของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดัชนีคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลยังปิดทำการอยู่ (ชัตดาวน์)
ด้านลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) ว่า เฟดควรจะดำเนินนโยบายการลดดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้ว นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะช่วยหนุนราคาสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนอย่างทองแดง และทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)