
บริษัทฟรีพอร์ต-แมคโมแรน (Freeport-McMoRan) เปิดเผยว่า มีคนงานเหมืองเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 รายจากเหตุการณ์โคลนถล่มที่เหมืองทองแดงกราสเบิร์ก (Grasberg) ทางตะวันออกของในอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้การผลิตต้องหยุดชะงัก
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โคลนถล่มในเหมืองกราสเบิร์กเพิ่มขึ้นเป็น 7 ราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์
การผลิตที่หยุดชะงักของเหมืองกราสเบิร์กซึ่งเป็นเหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานทองแดงในตลาดโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดอุบัติเหตุในเหมืองทองแดงขนาดใหญ่แห่งอื่น ๆ ทั่วโลกเมื่อช่วงต้นปี
ราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยนอกเหนือจากเหตุการณ์ปิดเหมืองกราสเบิร์กแล้ว ราคาทองแดงยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้ทองแดง
ทั้งนี้ ฟรีพอร์ต-แมคโมแรนได้ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) กับการขนส่งสินค้าในอินโดนีเซีย และลดการคาดการณ์การผลิตสำหรับปีนี้และปีหน้า โดยในขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบสาเหตุโคลนถล่ม และให้ความร่วมมือรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อประเมินสถานการณ์
ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ข้อพิพาทด้านแรงงาน การประท้วง การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)