“ไชยชนก” มอบนโยบาย Quick Win ขับเคลื่อนดีอี เร่งรับมือภัยธรรมชาติ-ความมั่นคง-เศรษฐกิจ-สังคม

นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการแถลงนโยบายขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญเร่งด่วน รองรับนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ 1. ภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ภัยความมั่นคง 3. ภัยเศรษฐกิจ 4. ภัยสังคม และ 5. การบริหารภาครัฐ ตามแนวทาง “Quick Win” โดยเน้นให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหา และลดผลกระทบจากภัยที่กล่าวมาข้างต้นให้กับประชาชน ได้แก่

 

1.ภัยธรรมชาติ

ขอให้หน่วยงานร่วมบูรณาการการใช้งานข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาและออกแบบแผนงานการนำข้อมูลไปใช้งานด้านการรับมือภัยธรรมชาติ ให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น

โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องของการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย การลดความสูญเสีย และเยียวยาความเสียหายของประชาชนที่ได้รับจากภัยพิบัติต่าง ๆ รวมถึงการใช้ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาและดาวเทียม เพื่อวางแผนในการเตือนภัยพิบัติอย่างละเอียด และแม่นยำมากขึ้น พร้อมกับส่งเสริมเพิ่มเติมทางการสื่อสารในการแจ้งเตือนภัยพิบัติให้เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ รวมทั้งติดตามเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือความเสียหายของโครงข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน และเร่งรัดแก้ไขในทันที

 

2.ภัยความมั่นคง

เร่งรัดให้มีการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน พร้อมกับบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลที่มีในหน่วยงานของกระทรวงดีอีมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานได้จัดทำแนวทางการใช้เทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยลดความตึงเครียด และช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทหาร และประชาชน และสนับสนุนเทคโนโลยีโดยการบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน เช่น เทคโนโลยีโดรน เป็นต้น

รวมทั้งการบูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง และภาคเอกชนด้านโทรคมนาคม (Operator) เกี่ยวกับสัญญาณสื่อสารตามแนวชายแดนทั้งหมด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มรูปแบบ

 

3.ภัยเศรษฐกิจ

จากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจของประเทศไทย ในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์และประเมินได้ ดังนั้นกระทรวงดีอี โดยหน่วยงานในสังกัด จะต้องเป็นผู้นำในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการดิจิทัล เพื่อช่วยลดผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้

ขณะเดียวกัน กระทรวงดีอี พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการผูกขาดของแพลตฟอร์มรายใหญ่ โดยจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการกำหนดมาตรการกำกับดูแลการแข่งขันที่เป็นธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมแนวทางการสร้างความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการแพลตฟอร์ม และประชาชน ทั้งที่เป็นผู้บริโภค และผู้ให้บริการในแพลตฟอร์ม รวมถึงการให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย

 

4.ภัยทางสังคม

สนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ข้อมูลและบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะ AI ที่เป็นเทคโนโลยีสำคัญพื้นฐานในปัจจุบัน สร้างความตระหนัก รู้และเข้าใจในการใช้ AI อย่างถูกต้องและปลอดภัย (AI Literacy) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มความเข้าใจ และสร้างสังคมดิจิทัลที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้จริงอย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์

สำหรับกรณีของภัยทางสังคมนั้น หลังจากมีแผนรับมือกับภัยทางธรรมชาติ และภัยความมั่นคงแล้ว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขภัยทางสังคมได้ในแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ด้านการยกระดับมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามเชิงรุก กับอาชาญกรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดความเสียหาย ต่อทั้งบุคคล และระบบเศรษฐกิจโดยรวม ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายไชยชนก กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศกำลังเผชิญกับสภาวะของภัย 4 ด้าน และรัฐบาลมีระยะเวลาทำงานเพียง 4 เดือน ดังนั้นการมอบหมายนโยบาย จึงจะต้องมีจุดเริ่มต้นที่ทุกหน่วยงานมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นตรงกัน และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน

สำหรับกระทรวงดีอี ในสถานการณ์ปกติ ถือเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดทิศทางของประเทศ ด้วยการวางฐานเทคโนโลยีที่มั่นคงและยั่งยืน แต่ในสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ตนจึงขอให้มีการดำเนินการเพิ่มแผนงานภารกิจในการแก้ไขปัญหา และลดความเสียหายจากภัยทั้ง 4 ด้าน ที่ประเทศกำลังเผชิญ โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ด้วยหลักการของการบูรณาการ การส่งเสริมผลักดัน การสนับสนุน และประคับประคองประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อให้ก้าวผ่านสถานการณ์ในปัจจุบันไปได้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)