ฟิลิปปินส์ขยายเวลาแบนนำเข้าข้าวถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า คาดฉุดราคาข้าวตลาดโลกตกต่ำ

ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก วางแผนว่าจะขยายเวลาห้ามนำเข้าข้าวออกไปจนถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเกษตรกรภายในประเทศ ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อราคาข้าวทั่วโลกต่อไปอีก

ฟรานซิสโก ติว ลอเรล จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ได้แถลงต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่า ฟิลิปปินส์จะอนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวในเดือนม.ค.ปีหน้าเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศอย่างน้อย 300,000 ตัน

รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรยังกล่าวด้วยว่า นับจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้ ฟิลิปปินส์ได้นำเข้าข้าว 3.5 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าที่ต้องการประมาณ 800,000 ตัน ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มที่จะซื้อข้าวจำนวน 5 ล้านตันในช่วงฤดูปี 2568-2569 มากกว่าปริมาณการซื้อจากผู้นำเข้ารายอื่น ๆ เช่น จีน

ทั้งนี้ มาตรการห้ามนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเดิมคาดว่าจะบังคับใช้เพียง 60 วัน แต่ขณะนี้ได้ถูกขยายเวลาออกไปจนถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า

แม้ทางการฟิลิปปินส์ให้เหตุผลว่าการขยายมาตรการห้ามนำเข้ามีเป้าหมายเพื่อปกป้องเกษตรกรในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูที่มีเก็บเกี่ยวสูงสุด แต่การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้อุปทานข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และฉุดราคาข้าวให้ตกต่ำลงไปอีก โดยนักวิเคราะห์ของ Olam Agri India Pvt กล่าวว่า การขยายเวลาห้ามนำเข้าข้าวนานขึ้นนั้น จะยิ่งกดดันให้ราคาข้าวปรับตัวลงอีก จากเดิมที่ราคาข้าวมีทิศทางที่อ่อนอยู่แล้วเนื่องจากแนวโน้มผลผลิตสูงในหลายประเทศที่เป็นแหล่งผลิตข้าว และความต้องการที่อ่อนแอลงจากประเทศผู้ซื้อ

เมื่อไม่นานมานี้ ราคาข้าวในตลาดเอเชียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากอินเดียสามารถปลูกข้าวได้มากขึ้นในฤดูมรสุม ขณะที่การผลิตข้าวทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่าการผลิตข้าวทั่วโลกจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 556.4 ล้านตันในช่วงฤดูปี 2568-2569 ซึ่งจะยิ่งทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกสูงขึ้นอีก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 68)