กนอ.ไฟเขียวตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมอารยะ” มุ่งสู่ต้นแบบเมืองอุตสาหกรรมอัจฉริยะตอบโจทย์ Smart I.E.

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอารยะ เป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 79 ของประเทศไทย ภายใต้การกำกับของ กนอ. โดยปัจจุบันโครงการกำลังเดินหน้าพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบเพื่อมุ่งกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านเทคโนโลยี ความยั่งยืนและความพร้อมสำหรับรองรับการลงทุน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม และก้าวสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะต้นแบบแห่งอนาคตของไทย

นิคมอุตสาหกรรมอารยะ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ บนทำเลถนนบางนา-ตราด กม.32 จังหวัดสมุทรปราการ บนพื้นที่กว่า 1,891 ไร่ และเมื่อเปิดดำเนินการคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศมากกว่า 58,240 ล้านบาท รวมถึงสร้างการจ้างงานใหม่กว่า 14,560 ตำแหน่ง เสริมศักยภาพการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม

การอนุมัติครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ – Smart Industrial Estate (SMART I.E.)” ที่รัฐบาลไทยมอบหมายให้ กนอ. และ BOI กำหนดขึ้น เพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมของประเทศให้ก้าวสู่อนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในยุคที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญ

นิคมอุตสาหกรรมอารยะต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ครบ 7 มิติ มาตรฐาน SMART I.E. ถือเป็นกรอบแนวทางที่จำเป็นและท้าทายอย่างยิ่งสำหรับนิคมอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน เนื่องจากประกอบไปด้วยเกณฑ์ทั้ง 7 ด้านที่กำหนดไว้นั้นครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนา ทว่า อารยะ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ ด้วยการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติและตอบโจทย์เกณฑ์ทั้ง 7 อย่างครบถ้วน ได้แก่

Smart Facilities- การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการติดตาม ควบคุม และบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม อารยะ ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เช่น เครื่องติดตามคุณภาพอากาศและ ระบบติดตามระดับน้ำในโครงการ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและพนักงาน

Smart IT- การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ Internet of Things (IoT) เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ อารยะ ได้นำระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (5G / Fiber Optic) มาใช้ พร้อมด้วยระบบบริหารจัดการเมือง (City Operation Center) ที่สามารถเก็บข้อมูลแบบ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง

Smart Energy- การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยพร้อมติดตั้งระบบ Smart Metering สำหรับระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางของนิคม และพร้อมติดตั้ง Solar Energy เพื่อใช้ในโครงการ

Smart Economy– สนับสนุนการพัฒนากิจกรรม BCG ที่มีความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชน และการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของผู้ประกอบการในนิคม

Smart Good Corporate Governance- การกำกับดูแลกิจการด้วยธรรมาภิบาล อารยะ ดำเนินงานอย่างโปร่งใส เปิดเผยข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสีย

Smart Living- การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี อารยะ วางแผนพื้นที่สีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โซนไลฟ์สไตล์ และศูนย์กลางบริการชุมชน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและพนักงาน

Smart Workforce – การพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อารยะ ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและฝึกอบรมแรงงานที่มีทักษะสูง สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย

นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะตอบโจทย์การลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกเหนือจากการบรรลุเกณฑ์ทั้ง 7 ด้าน ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก ด้วยสิทธิประโยชน์จากการเป็น “นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ” ซึ่งมอบผลประโยชน์หลากหลายด้านให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะในแง่ของความสะดวก ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 68)