
ราคาข้าวมาตรฐานของเอเชียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งสัญญาณว่าค่าอาหารสำหรับภาคครัวเรือนจะถูกลง โดยเฉพาะในประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าว หลังจากฟิลิปปินส์ประกาศขยายเวลาห้ามนำเข้าข้าว โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเกษตรกรภายในประเทศ
ราคาข้าวขาว 5% ของไทยซึ่งเป็นราคาข้าวมาตรฐานของเอเชีย ร่วงลง 1.9% แตะที่ระดับ 355 ดอลลาร์/ตันในวันพุธ (8 ต.ค.) ตามการเปิดเผยของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย โดยราคาดังกล่าวถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2558
ทั้งนี้ ราคาข้าวปรับตัวลง หลังจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศขยายเวลาห้ามนำเข้าข้าวออกไปจนถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเกษตรกรภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูที่มีการเก็บเกี่ยวสูงสุด ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อราคาข้าวทั่วโลกต่อไปอีก
ฟรานซิสโก ติว ลอเรล จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ต.ค.) ว่า นับจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้ ฟิลิปปินส์ได้นำเข้าข้าว 3.5 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าที่ต้องการประมาณ 800,000 ตัน ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มที่จะซื้อข้าวจำนวน 5 ล้านตันในช่วงฤดูปี 2568-2569 มากกว่าปริมาณการซื้อจากผู้นำเข้ารายอื่น ๆ เช่น จีน
ทั้งนี้ มาตรการห้ามนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเดิมคาดว่าจะบังคับใช้เพียง 60 วัน แต่ขณะนี้ได้ถูกขยายเวลาออกไปจนถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า
ต้นทุนข้าวซึ่งเคยพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในปี 2567 เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งและความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานนั้น ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อผลผลิตดีขึ้น โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวทั่วโลกในฤดูกาลปี 2568-2569 จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 556.4 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้สต็อกข้าวปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนในประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกนั้น ปริมาณฝนในฤดูมรสุมที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอินเดียมีแนวโน้มที่จะทำให้การเก็บเกี่ยวในฤดูกาลนี้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้อุปทานข้าวทั่วโลกล้นตลาด และส่งผลให้อินเดียส่งออกข้าวมากขึ้น หลังจากรัฐบาลอินเดียยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาดภายในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)