
ดาต้าเซ็ตเผยอินไซต์จากชาวเน็ตที่พูดถึงย่านท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่า สุขุมวิทติดอันดับ 1(33.0%) รองลงมาคือ ย่านเมืองเก่าอย่างพระนคร (27.8%) และสยาม (8.6%) ตามมาด้วยย่านเยาวราช (7.9%) ในขณะที่การท่องเที่ยวสาย Lifestyle & Cafe Hopping ได้รับ Engagement สูงถึง 65.2% รองลงมาคือ สาย Shopping & Urban Life ได้รับ Engagement 24.6% และสาย Experience & Creative Activity ได้รับ Engagement 5.2%
ย่านไหนมาแรง? เจาะกระแสเที่ยวกรุงเทพฯ
- สุขุมวิท (33.0%) ครองอันดับหนึ่งด้วยพื้นที่ใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ทันสมัย ทั้งแหล่งชอปปิง ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ EmQuartier Emporium Emsphere และ Terminal 21 รายล้อมด้วยโรงแรมหรู การเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS พร้อมสวนสาธารณะใจกลางเมืองอย่างสวนเบญจกิติ สำหรับนักวิ่งและคนรักสุขภาพ
- พระนคร (27.8%) ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ศาสนสถาน และแลนด์มาร์กสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) เสาชิงช้า รวมถึงถนนข้าวสาร และท่ามหาราช ซึ่งล้วนเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
- สยาม (8.6%) ศูนย์กลางการชอปปิงและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง โดดเด่นด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์ อาทิ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซีไลฟ์ แบงคอก ที่เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS
- เยาวราช (7.9%) เอาใจสายกินด้วยสตรีทฟู้ดที่ไม่เคยหลับไหล สายถ่ายรูปต้องหลงรักสถาปัตยกรรมตึกแถวโบราณสุดคลาสสิก โดยเฉพาะ “ถนนทรงวาด” รวมถึงวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ศูนย์รวมศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีน
- รัชดา/ห้วยขวาง (7.3%) เป็นหนึ่งในแหล่งแฮงก์เอาต์ยอดนิยม โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเที่ยวกลางคืน แหล่งรวมร้านค้า The Street Ratchada ร้านอาหาร ผับและบาร์ ตอบโจทย์สายชอป สายกิน หรือสายนั่งชิล เหมาะกับการนัดพบเพื่อนฝูง
- ลาดพร้าว (5.7%) แหล่งไลฟ์สไตล์ครบวงจรอีกแห่งในกรุงเทพฯ มีทั้งศูนย์การค้า เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ รวมถึงตลาดนัดจตุจักร สวนรถไฟ (สวนวชิรเบญจทัศ) สำหรับการพักผ่อนในวันสบาย ๆ เหมาะกับนักท่องเที่ยวงบจำกัดที่ต้องการสัมผัสวิถีกรุงเทพฯ
- สีลม/สาทร (5.2%) มีทั้งไนท์ไลฟ์ ร้าน Fine dining และบาร์บนตึกสูงเพื่อชมวิวเมืองอย่าง Rooftop Bar ที่ตึกมหานคร รวมถึง One Bangkok และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในกรุงเทพฯ อย่าง Dusit Central Park สวนลอยฟ้า จุดถ่ายรูปสวย ๆ พื้นที่สีเขียวกลางใจเมือง
- ดุสิต (4.5%) เต็มไปด้วยบรรยากาศร่มรื่น รายล้อมด้วยพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมเชิงประวัติศาสตร์ ทั้ง วังปารุสกวัน วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นต้น
การกระจายความนิยมของแต่ละย่านชี้ให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจจากการวิเคราะห์บทสนทนาบนโซเชียลมีเดีย คือ ผู้คนไม่ได้เลือกท่องเที่ยวเพียงแค่สถานที่อย่างเดียว แต่เลือกตามสไตล์การเที่ยวที่สะท้อนตัวตน มาดูกันว่าผู้คนในสังคมออนไลน์ชอบเที่ยวแนวไหนบ้าง และอะไรคือเสน่ห์ที่ทำให้แต่ละสไตล์โดดเด่น
เที่ยวกรุงแบบไหน โดนใจสายทัวร์!
สาย Lifestyle & Cafe Hopping ได้รับ Engagement สูงถึง 65.2%:
(Aesthetic หมายถึงผู้ที่ชื่นชอบหรือให้ความสำคัญกับความสวยงามทางสายตา เช่น การจัดแต่งภาพ สี และสไตล์ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว)
สาย Shopping & Urban Life ได้รับ Engagement 24.6%:
สาย Experience & Creative Activity ได้รับ Engagement 5.2%:
การเที่ยวเชิงประสบการณ์เป็นกิจกรรมที่มีฐานผู้สนใจเฉพาะกลุ่ม เพราะต้องใช้ทั้งเวลาและงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช้อป กิจกรรมผจญภัย คอนเสิร์ต หรือกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ต่าง ๆ แม้จะมีสัดส่วนเอ็นเกจเมนต์ไม่มาก แต่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เมื่อคนเริ่มมองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและมีคุณค่าเพิ่ม เป็นการเที่ยวที่ช่วยสร้างทักษะใหม่ สร้างความทรงจำที่ไม่เหมือนใคร เหมาะกับผู้ที่ชอบลองสิ่งใหม่และต้องการมีส่วนร่วมแบบ Active
สาย Culture ได้รับ Engagement 3.4%:
การเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยังคงได้รับความสนใจแม้ไม่ใช่กระแสหลัก แต่กรุงเทพฯ ยังถือเป็นศูนย์รวมแหล่งวัฒนธรรม ทั้งวัด พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรี่ต่าง ๆ ที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แม้คนรุ่นใหม่จะหันไปสนใจคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น แต่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เข้าใจรากเหง้าทางวัฒนธรรม และสัมผัสความงดงามแบบดั้งเดิมของกรุงเทพฯ
สาย Nature ได้รับ Engagement 1.6%:
การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในกรุงเทพฯ แม้จะยังมีสัดส่วนเอ็นเกจเมนต์ไม่มากนัก เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักเลือกกิจกรรมที่สะดวกและใกล้ตัวกว่า แต่ประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติยังคงมีคุณค่าสำหรับกลุ่มที่แสวงหาความสงบและต้องการพักใจ การเดินเล่นในสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว กลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเติมพลังชีวิตให้กับคนเมืองกลุ่มนี้
พฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ท่องเที่ยวบนโซเชียลมีเดีย
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) จาก Social Listening จะเห็นว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีระดับปฏิสัมพันธ์ที่แตกต่างกันและสะท้อนความนิยมของคอนเทนต์ท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ
TikTok: 58% (483,984)
คอนเทนต์แบบ Short-form video ยังคงครองใจสายเที่ยวมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความรวดเร็ว สนุกสนาน และไอเดียใหม่ ๆ ในการท่องเที่ยว TikTok จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีเอ็นเกจเมนต์สูงสุดสำหรับแรงบันดาลใจและคอนเทนต์ท่องเที่ยวแบบกระชับ
Facebook: 30% (251,043)
ยังคงเป็นพื้นที่ยอดนิยมสำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว ผู้ใช้มักเข้ามารีวิว แนะนำ หรือแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับงานอีเวนต์และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์เพื่อรับคำแนะนำก่อนตัดสินใจ
Instagram: 7% (159,910)
แหล่งรวมรูปภาพสวย ๆ และแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่สนใจมุมถ่ายรูปสวย ๆ (Instagrammable) ของสถานที่ท่องเที่ยว แม้เอ็นเกจเมนต์ไม่มากเท่า TikTok และ Facebook แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับสาย Aesthetic และการวางแผนภาพก่อนออกเดินทาง
YouTube: 2% (20,448)
เป็นพื้นที่สำหรับคอนเทนต์เจาะลึก และเล่าเรื่อง (Storytelling) แบบ Long-form video ผู้ชมบนยูทูปมักเข้ามาดูรีวิวท่องเที่ยวที่มีรายละเอียดครบถ้วน พร้อมทั้งความบันเทิง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรู้รายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวก่อนตัดสินใจ
อื่น ๆ: 3% (8,449)
ยังมีบางกลุ่มที่มักค้นหารีวิวจากแพลตฟอร์ม X และ Pantip ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับพูดคุยและสอบถามประสบการณ์ได้อย่างสบายใจ
4D Cycle: วัฏจักรโซเชียล ของนักเที่ยวยุคดิจิทัล!
Discover – ค้นหาแรงบันดาลใจ (TikTok, 58% Engagement)
Discuss – แลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Facebook, 30% Engagement)
Decide – ตัดสินใจด้วยข้อมูลเชิงลึก (YouTube, 2% Engagement)
Deliver – ส่งต่อประสบการณ์สู่สังคมออนไลน์ (Instagram, 7% Engagement)
หลังจากไปเที่ยวจริงแล้ว การแชร์ประสบการณ์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ Instagram เป็นพื้นที่สำหรับโพสต์ภาพถ่ายและ Reels สวย ๆ ไม่เพียงเก็บความทรงจำ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ และนักท่องเที่ยวคนอื่นตามรอยต่อ
วงจรนี้กลับไปที่ Discover ของนักท่องเที่ยวคนใหม่ ๆ เมื่อคนอื่นเห็นโพสต์ ก็เกิดแรงบันดาลใจใหม่ เริ่มต้นวงจร 4D อีกครั้ง
กรุงเทพฯ กับมุมลับที่ต้องไปสัมผัสเอง!
กรุงเทพฯ ไม่ได้มีดีแค่แลนด์มาร์กหรือร้านคาเฟ่ชื่อดัง แต่ยังเต็มไปด้วย Hidden Gem (สถานที่หรือมุมพิเศษที่ซ่อนอยู่และมีเสน่ห์เฉพาะตัว) ตรอกซอยเล็ก ๆ ในพระนครและเยาวราชซ่อนสตรีทอาร์ตและอาคารคลาสสิกให้ถ่ายรูปชิค ๆ ขยับไปทองหล่อและสุขุมวิทกับคาเฟ่วินเทจ บาร์สุดเก๋ และร้านอาหาร Aesthetic ที่สามารถนั่งชิลล์ได้ทั้งวัน ส่วนใครมองหามุมพิเศษ ลองแวะ Rooftop Bar เพื่อชมวิวเมืองสวย ๆ หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะร่มรื่นอย่างสวนเบญจกิติและสวนรถไฟ
ทุกมุมของกรุงเทพฯ คือโอกาสสร้างเรื่องราวและแรงบันดาลใจ มุม Hidden Gem ที่คุณเจอและแชร์ลงโซเชียล อาจกลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ให้คนอื่นตามรอย พร้อมประสบการณ์ที่รอให้ทุกคนค้นพบ
ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมจาก dxt:360 (Social Listening and Media Monitoring Platform) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม-22 กันยายน 2568
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)