
บอร์ด สปสช. ไฟเขียวบริการการแพทย์ขั้นสูง เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง 9 โรค ด้วย “MR Linac เครื่องฉายรังสีสามมิติ” เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพการรักษา ระบุมี รพ.ศิริราช เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ให้บริการ พร้อมอนุมัติปีงบประมาณ 2569 ตั้งงบ 18 ล้านบาท เหมาจ่ายเพื่อให้บริการผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง 150 ราย
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอ “บริการรังสีสามมิติแปรความเข้มด้วยเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอน พร้อมระบบภาพนำวิถีด้วยคลื่นแม่เหล็ก” ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ซึ่งเป็นบริการการแพทย์ขั้นสูง โดยให้ใช้งบประมาณจากงบบริการกรณีเฉพาะ ของปีงบประมาณ 2569 รวม 18 ล้านบาท พร้อมกับมอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วยในระบบบัตรทองได้เข้าถึงบริการ
ทั้งนี้ บริการการแพทย์ขั้นสูงด้วยเครื่องฉายรังสีสามมิติ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลศิริราชเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถให้บริการนี้ได้ ซึ่งเครื่องฉายรังสีสามมิติ หรือที่เรียกว่า “MRI-guide liner accelerator” (MR Linac) เป็นประโยชน์อย่างมากในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากมีระบบการทำภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบนเตียงฉายรังสี ทำให้เห็นรายละเอียดของก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อข้างเคียงได้อย่างชัดเจน ส่งผลทำให้เห็นการเปลี่ยนตำแหน่ง หรือการเปลี่ยนรูปร่างของก้อนเนื้อในแต่ละครั้งที่ฉายรังสีรักษาได้ ทำให้แพทย์ผู้ให้การรักษาสามารถปรับเปลี่ยนการรักษาให้เหมาะสมกับภาวะของก้อนเนื้อที่เปลี่ยนไปได้ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการฉายรังสีรักษา
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลจากการใช้เครื่อง MR Linac ในตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี และมะเร็งตับอ่อน พบว่ามีประสิทธิภาพการรักษาที่ดี ซึ่งที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้อนุมัติให้เป็นบริการเพื่อเพิ่มการรักษาให้กับผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ทำให้เข้าถึงการรักษาด้วยเครื่องมือและบริการทางการแพทย์ขั้นสูงดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“การบรรจุเทคโนโลยีฉายรังสีสามมิติด้วยเครื่อง MR Linac ในระบบบัตรทอง ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคป่วยมะเร็ง ได้รับการดูแลรักษาด้วยเครื่องมืออันทันสมัย ในระดับเดียวกับประเทศพัฒนาแล้ว” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากการติดตามและศึกษาการรักษาผู้ป่วยมะเร็งของโรงพยาบาลศิริราช ที่ได้ใช้เครื่องรังสีสามมิติแปรความเข้มด้วยเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอน พร้อมระบบภาพนำวิถีด้วยคลื่นแม่เหล็ก หรือเครื่อง MR Linac มาตั้งแต่ปี 2564 พบว่ามีประสิทธิภาพในการรักษา และมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2567 มีผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับการรักษาด้วยเครื่องนี้ถึง 261 ราย
สำหรับในส่วนผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่มีภาวะเจ็บป่วยในกลุ่มโรคที่เข้าเงื่อนไขการเข้ารับบริการด้วยเครื่องรังสีสามมิติแปรความเข้มด้วยเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนฯ มีทั้งหมด 9 โรค ประกอบด้วย 1. มะเร็งที่ศีรษะและคอ 2. มะเร็งช่องท้อง 3. มะเร็งปอด 4. มะเร็งตับ 5. มะเร็งเต้านม 6. มะเร็งต่อมลูกหมาก 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 8. มะเร็งสมอง และ 9. มะเร็งอื่น ๆ ที่อยู่ในระยะแพร่กระจาย ซึ่งตั้งเป้าหมายผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทองที่เข้าเงื่อนไข เข้ารับบริการปีละ 150 คน งบประมาณจำนวน 18 ล้านบาท
โดยเป็นการจ่ายชดเชยค่าบริการแบบเหมาจ่ายรายปี ให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพราะเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้การรักษา ครอบคลุมการให้บริการ 3 รายการ คือ บริการการถ่ายภาพด้วยเครื่องจำลอง บริการทวนสอบตำแหน่งการฉายรังสีด้วย MRI/รังสีรักษาปรับตัว และบริการคำนวณปริมาณ/ปรับทวนสอบด้วยภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
“แนวโน้มผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในประเทศไทย มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 1 แสนรายต่อปี และด้วยเป็นโรคที่มีภาวะซับซ้อน และต้องใช้เทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง ที่มีให้บริการเฉพาะในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ เพื่อทำการรักษา ซึ่งจากมติบอร์ด สปสช.จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการรักษาให้กับผู้ป่วยได้มากขึ้น ภายใต้สิทธิบัตรทองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกัน สปสช. ก็จะเร่งในด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ควบคู่ไปกับการหาแนวทางการรักษาโรคที่มีประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น” เลขาธิการ สปสช.ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 68)