Decrypto: โลกยุคดิจิทัลกับวงจรฟอกเงินที่ไร้พรมแดน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดโปงเรื่องราวของเครือข่ายสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ที่มีฐานปฏิบัติการในประเทศ กัมพูชา โดยได้รับความสนใจจากทั่วโลกเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ร่วมกันออกมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ พร้อมทั้งการจับกุมและสอบสวนของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่กดดันรัฐบาลไทยให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้

การจับกุมและมาตรการคว่ำบาตรต่อเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ตั้งฐานในกัมพูชากลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก จากกรณีผู้เสียหายถูกบังคับทำงานในคอมปาวด์ (Scam Compound) และการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง สิ่งที่สะท้อนออกมาคือ เงินที่ได้จากการหลอกลวงเหล่านี้ถูก “ทำให้สะอาด” (Laundered) อย่างไร และเราจะสามารถสังเกตสัญญาณเตือนได้อย่างไรก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อหรือถูกเกี่ยวพันกับเครือข่ายเหล่านี้

ภาพรวมเชิงองค์กรของเครือข่ายสแกมเมอร์สมัยใหม่มักมีโครงสร้างแบบเครือบริษัทที่มีผู้ออกแบบแผน เหล่าผู้ปฏิบัติงานทางเทคนิค ฝ่ายติดต่อเหยื่อ ฝ่ายการเงิน และเครือข่ายตัวกลาง (Mules) ที่ทำหน้าที่รับ/โอนเงิน กลุ่มเหล่านี้อาจตั้งฐานปฏิบัติการในประเทศต่าง ๆ ใช้สถานที่ที่คล้าย “คอมปาวด์” หรือรีสอร์ตเป็นที่ปฏิบัติงาน และจ้างแรงงานหลากหลายชาติให้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่จำกัดเสรีภาพ

วิธีการฟอกเงินมักมีรูปแบบซ้ำ ๆ ที่ปรากฏในงานสืบสวนและรายงานสาธารณะ ซึ่งสามารถสรุปได้เป็นกลุ่มวิธีหลัก ๆ ดังนี้

• การใช้ “คนกลาง” หรือบัญชีตัวกลาง (money mule) เงินที่ได้จากการฉ้อโกงจะถูกโอนมายังบัญชีบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคนกลาง ซึ่งอาจเป็นผู้ถูกหลอกจูงให้รับเงิน จากนั้นจึงกระจายเงินเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อเบลอเส้นทางการเงิน

• การใช้ธุรกิจบังหน้าและบริษัทบังหน้า (shell companies) จดทะเบียนกิจการที่ดูเหมือนถูกต้อง เช่น ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก โรงแรม หรือร้านค้าออนไลน์ เพื่อปลอมแปลงแหล่งรายได้และอ้างว่ากิจการเหล่านี้เป็นต้นทางของเงิน

• การใช้ช่องทางการเงินนอกระบบและบริการแลกเปลี่ยนมีการกำกับดูแลต่ำ โอนเงินผ่านเครือข่ายโอนเงินนอกระบบ จุดแลกเปลี่ยนเงินตราแบบไม่เป็นทางการ หรือใช้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีการกำกับดูแลไม่เพียงพอ เพื่อโยกย้ายเงินไปยังระบบที่ตามรอยได้ยากขึ้น

• การทำธุรกรรมการค้าปลอมหรือเกินมูลค่า (trade-based laundering) ใช้เอกสารการค้าปลอม และแต่งบัญชีให้มีรายได้สูงเกินจริง เช่น ใบแจ้งหนี้ที่บวกมูลค่าสินค้าเกินจริง หรือการส่งออก/นำเข้าเพื่ออธิบายการเคลื่อนย้ายเงินข้ามพรมแดน

• การรวม/กระจายเงินผ่านเครือข่ายหลายชั้นและสกุลเงินหลายรูปแบบ ผสมผสานการแปลงเป็นสกุลเงินต่าง ๆ ทั้งเงินสด ธนบัตรสกุลต่างประเทศ และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมไปถึงทองคำ เพื่อลดความเชื่อมโยงระหว่างต้นทางกับผู้รับปลายทาง

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า ธุรกิจหรือกิจกรรมใดที่อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก็อาจสังเกตจาก ธงแดง (Red flags) ในภาคการเงินและองค์กรธุรกิจเบื้องต้นได้ เช่น ปริมาณโอนเข้าบัญชีสูงโดยไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน หรือการโอนที่ถูกกระจายออกอย่างรวดเร็ว, บริษัทใหม่ที่มีธุรกรรมขนาดใหญ่ทันทีหลังจดทะเบียน, เอกสารการค้าหรือหลักฐานกิจการไม่สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานจริง, บัญชีที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีประวัติการร้องเรียนหรือเป็นช่องทางของการหลอกลวง และการใช้ตัวแทน/บัญชีบุคคลซ้ำ ๆ เป็นจุดรับเงินจากแหล่งต่างประเทศ เป็นต้น

มาตรการป้องกันและคำแนะนำเชิงนโยบาย ภาครัฐอาจเริ่มดำเนินการได้โดย เพิ่มความเข้มงวดด้าน KYC/AML ของสถาบันการเงิน ปรับปรุงระบบตรวจจับธุรกรรมผิดปกติ และสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลระหว่างธนาคาร/หน่วยงานกำกับดูแล, เสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ขยายช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อติดตามเครือข่ายข้ามพรมแดนและระงับช่องทางการเงินที่ถูกใช้ร่วมกัน, กำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและบริการ OTC ยกระดับการกำกับดูแลแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน และบังคับให้มีมาตรการต่อต้านการฟอกเงินสำหรับผู้ให้บริการที่มีความเสี่ยง, บังคับใช้กฎหมายและยึดทรัพย์ ดำเนินคดีต่อผู้ที่อยู่ในวงจร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และมีมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด รวมไปถึง สร้างการรับรู้สาธารณะ ให้ความรู้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์และวิธีสังเกตธงแดง

เครือข่ายสแกมเมอร์สมัยใหม่มีลักษณะเป็นองค์กรข้ามชาติที่ใช้ช่องทางดิจิทัลและเครือข่ายการเงินที่ซับซ้อนในการแสวงหากำไรผิดกฎหมาย การตอบโต้ต้องอาศัยทั้งการปรับปรุงมาตรการภายในภาคการเงิน การเสริมการบังคับใช้กฎหมาย และการประสานงานระหว่างประเทศ พร้อมทั้งการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนจากการเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ การเข้าใจภาพรวมของวิธีการฟอกเงินเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการออกแบบนโยบายและเครื่องมือตรวจจับที่มีประสิทธิภาพ

ในบทความต่อไป ผู้เขียนจะขอนำเสนอถึงกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจภาพรวมเชิงกฎหมาย พร้อมทั้งแนวทางการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในอนาคต

ดุษดี ดุษฎีพาณิชย์

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการค้า การลงทุน และอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 68)