
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันจันทร์ (13 ต.ค.) ทะลุระดับ 4,100 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 132.6 ดอลลาร์ หรือ 3.31% ปิดที่ 4,133 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแล้ว 56% ในปีนี้ และทำลายสถิติ 4,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการที่ธนาคารกลางเดินหน้าซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลาง เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค. และให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.
ด้านนักวิเคราะห์จาก Bank of America และ Societe Generale ต่างก็คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ในปี 2569 ขณะที่นักวิเคราะห์จากStandard Chartered ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยขึ้นสู่ระดับ 4,488 ดอลลาร์ในปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)