
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.55/56 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่า จากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.73 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค
ตลาดรอดูผลการเจรจาภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งมีข่าวว่าสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีจีน แต่ก็มีอีกกระแสข่าวที่ว่าการเจรจายัง เป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังมีความกังวลเรื่องภาษี ส่งผลให้ทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้น เป็นแรงกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.45 – 32.65 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้รอติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ย. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB)
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.46/49 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 152.83 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1571/1573 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1574 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.749 บาท/ดอลลาร์
- รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้กระทรวงการคลังจะรายงานต่อ ครม. เศรษฐกิจเกี่ยวกับ สถานการณ์ของเงินไหลเข้าที่ไม่รู้ที่มา ซึ่งในระยะหลังมียอดที่เพิ่มขึ้นมาก โดยกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อหาข้อเท็จ จริงว่า เงินดังกล่าวมีที่มาที่ ไปอย่างไร ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังสำนักงานคณะ กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมศุลกากร
- หอการค้าไทย คาดการณ์การส่งออกไทยอาจสูญกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี หากสหรัฐกำหนดสัดส่วน Local Content เพิ่ม เป็น 60%
- บีโอไอเปิดแผน 4 เดือน ดัน 70 โครงการขนาดใหญ่ค้างท่อลงทุน เปิดมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้าน พร้อมดันมาตรการ พัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
- รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยา กร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าหมายช่วง 4 เดือนก่อนยุบสภาของรัฐบาลนี้ หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.68-ม.ค.69 ต้องการให้ ททท. ผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยให้ได้ 12 ล้านคน สร้างรายได้ 580,000 ล้านบาท แม้จำนวนและรายได้ลดลง 7% และ 3% ตามลำดับ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ตาม
- ทองคำโลกทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่สมาคมค้าทองคำไทยปรับขึ้น 18 ครั้งในวัน เดียว รวม 650 บาท ด้านแบงก์ออฟอเมริกาออก บทวิเคราะห์ชี้ทองคำยังมีแรงขับต่อจากหนี้สหรัฐฯ ดอกเบี้ยขาลง และความไม่แน่นอน ทางภูมิรัฐศาสตร์
- ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (13 ต. ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ผ่อนปรนท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนในประเด็นการค้า
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันจันทร์ (13 ต.ค.) ทะลุระดับ 4,100 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่นักลงทุนเชื่อ มั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
- นักวิเคราะห์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลาง เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ รวมทั้ง สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค. และให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงเป็นไปในทางที่ดี และมาตรการภาษี 100% ที่ ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บจากจีนนั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น พร้อมกับเสริมว่า เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐฯ จะมีการหารือกันที่กรุง วอชิงตันในสัปดาห์นี้ นอกรอบการประชุมประจำปีของธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
- นักลงทุนจับตาสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยการชัตดาวน์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต. ค. และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว โดยล่าสุดมี รายงานว่า รัฐบาลทรัมป์ได้เลิกจ้างพนักงานจำนวนหลายสิบคนที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ซึ่งรวมถึงนักระบาดวิทยาและนักวิทยา ศาสตร์อาวุโส
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)