
๐ บมจ.อินดิจี [IDG] หุ้นเทคตัวตึงกว่า 25 ปี !! เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 28 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.00 บาท P/E 17.65 เท่า กำหนดเปิดให้จองซื้อวันที่ 15-17 ต.ค.68 และเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology)
๐ IDG คือใคร :: IDG ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) และพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) แบบครบวงจร
๐ ลูกค้าของ IDG :: คือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในหลายอุตสาหกกรม อาทิกลุ่มการเงิน, ประกันภัย, พลังงาน, การแพทย์, อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น ขณะที่ลูกค้าภาครัฐและลูกค้าต่างประเทศก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน
๐ โครงสร้างรายได้ของ IDG :: ปัจจุบันแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ธุรกิจได้แก่
1) รายได้จากการขายซอฟต์แวร์ : มีทั้งซอฟต์แวร์ของ Microsoft และพันธมิตรรายอื่น รวมไปถึงมีซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาเองให้เหมาะสมกับบริบทภาคธุรกิจไทย อย่าง WORK+ ใช้สำหรับการทำงานในองค์กร, BIZ+ ใช้สำหรับงานภาคธุรกิจและบริการ และ LIFE+ ใช้สำหรับภาคสังคมและชุมชน เป็นต้น
2) รายได้จากการบริการพัฒนาระบบดิจิทัล
3) รายได้จากค่าบริการบำรุงรักษาระบบและซอฟต์แวร์
4) รายได้จากค่าบริการอื่น ๆ
๐ แอบดูงบ IDG ล่าสุด ::
งบปี 65 มีรายได้รวม 125.95 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.58 ล้านบาท
งบปี 66 มีรายได้รวม 115.01 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.09 ล้านบาท
งบปี 67 มีรายได้รวม 127.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15.22 ล้านบาท
งบ 6M/67 มีรายได้รวม 55.61 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.84 ล้านบาท
งบ 6M/68 มีรายได้รวม 64.43 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.59 ล้านบาท
๐ IDG กับเงิน IPO :: บริษัทต้องการใช้เงินระดมทุนสำหรับ
1) วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
2) ขยายสำนักงานและศูนย์บริการธุรกิจดิจิทัล
3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
๐ เปิดใจผู้บริหาร IDG :: นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า เงินระดมทุนส่วนแรกจะใช้เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเป็นหัวหอกของการขับเคลื่อนบริษัทในอนาคต
“เราต้องการทำระบบอัจฉริยะให้กับองค์กร โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของซอฟต์แวร์ยุคนี้คือต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้น จากกรอบเวลาเดิมที่ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน เราก็จะพยายามทำให้เหลือเพียง 15 วัน-3 เดือนเท่านั้น” นายวิธาน กล่าว
และเงินระดมทุนส่วนที่สองใช้สำหรับขยายสำนักงานและสร้างศูนย์ Digital Business Center ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์รวมใหม่ในการให้คำปรึกษาด้าน Digital Transformation กับผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ
สำหรับแผนธุรกิจ 3-5 ปี เรามีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม SME เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าประมาณ 93% ของบริษัทเป็นกลุ่ม Mid To Enterprise : บริษัทขนาดกลางไปจนจึงขนาดใหญ่ และผลิตภัณฑ์บางชนิดของเราก็น่าจะเหมาะสมกับลูกค้ากลุ่ม SME ดังนั้นลูกค้ากลุ่มนี้ก็ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจและต่อยอดไปได้
ขณะที่ลูกค้าในต่างประเทศก็มีแผนขยายฐานลูกค้าแถบ CLMV เพิ่มเติมเช่นกัน อาทิ ลูกค้าในสปป.ลาวที่น่าจะเห็นความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
“แผน 3-5 ปี บริษัทเล็งเห็นเมกะเทรนด์ต่าง ๆ ที่จะเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งเทรนด์ Digital Transformation ที่ลูกค้าอยากจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, เทรนด์ ESG, เทรนด์ AI – Data Center รวมถึงเรื่อง Cyber Security ซึ่งเราก็จะโตไปพร้อมเทรนด์เหล่านี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
- IDG กับข้อได้เปรียบทางธุรกิจ (นาทีที่ 3.22 – 4.49)
- IDG กับความเสี่ยงทางธุรกิจและแผนรับมือ (นาทีที่ 4.50 – 5.35)
- IDG กับแผนระดมทุน (นาทีที่ 5.36 – 7.36)
- IDG กับแผนธุรกิจระยะยาว (นาทีที่ 7.37 – 11.08)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 68)
