
ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเฟ้อของอังกฤษมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศ G7 ทั้งในปีนี้และปีหน้า
การแสดงความเห็นของกูรินชาส์มีขึ้นหลังจากที่ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัว 1.3% ในปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.1% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค. และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2569 จะขยายตัว 1.3% ลดลง 0.1% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยเฉลี่ยของอังกฤษจะอยู่ที่ 3.4% ในปีนี้ และ 2.5% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของประเทศในกลุ่ม G7 และสูงกว่าที่ IMF คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.
IMF ระบุว่า การคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของอังกฤษนั้น ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นครั้งเดียวของราคาสินค้าที่ควบคุมโดยรัฐบาล และคาดว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวนั้น เนื่องจากภาวะตลาดแรงงานที่คลายความตึงตัวและการเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวลง
คณะกรรมการ BoE ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4% จากระดับ 5.25% อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค.ที่ผ่านมาเป็นการลงมติแบบไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ในขณะที่ตลาดการเงินไม่มั่นใจเต็ม 100% ว่า BoE จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกจนกว่าจะถึงเดือนมี.ค. 2569
แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก แต่การจะปรับลดเมื่อใดและมากเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มีต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และเบลีย์ ผู้ว่าการ BoE จะเข้าร่วมการประชุมประจำปีของ IMF ที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางที่ประเทศทั่วโลกจะรับมือกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 68)