
รัฐบาลจีนประกาศแต่งตั้ง หลี่ เฉิงกัง เป็นหัวหน้าผู้เจรจาการค้าอย่างเต็มตัว หลังพ้นจากตำแหน่งผู้แทนถาวรประจำองค์การการค้าโลก (WTO) นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่กลับมาระอุขึ้นอีกครั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานในวันนี้ (20 ต.ค.) ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเอกอัครราชทูตตามวาระปกติที่ได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขณะที่ผู้แทนถาวรคนใหม่ของจีนประจำ WTO คือ หลี หย่งเจี๋ย ซึ่งเข้ารับตำแหน่งไปตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. แล้ว
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจกลับมาปะทุเดือด เมื่อสหรัฐฯ เพิ่มรายชื่อบริษัทต่างชาติในบัญชีคว่ำบาตร ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากและวัสดุที่สำคัญ
นอกจากนี้ การแต่งตั้ง หลี่ เฉิงกัง วัย 58 ปี ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ถึง 4 รอบ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยระบุว่า หลี่มีพฤติกรรม “เสียสติ”
แหล่งข่าวเผยว่า การเยือนกรุงวอชิงตันของหลี่ เฉิงกัง เมื่อเดือนส.ค. สร้างความไม่พอใจให้คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างมาก เนื่องจากหลี่ เฉิงกัง มาโดยไม่ได้รับเชิญ แถมยังเรียกร้องขอพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง และ “ตอกย้ำเรื่องเล่าที่เป็นเท็จของฝ่ายจีนพร้อมกับพยายามสั่งสอนชาวอเมริกัน”
อย่างไรก็ดี เบสเซนต์พยายามลดความร้อนแรงของสถานการณ์ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่คาดว่าจะมีขึ้นนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ในปลายเดือนนี้ โดยเขาได้หารือทางวิดีโอกับเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17 ต.ค.) และมีกำหนดจะพบกันที่มาเลเซียในสัปดาห์หน้าเพื่อยับยั้งการขึ้นภาษีระลอกใหม่
ทั้งนี้ หลี่ เฉิงกัง เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายของ WTO อย่างลึกซึ้ง โดยเขาดำรงตำแหน่งทูตจีนประจำ WTO มานานกว่า 4 ปี นอกจากนี้ยังได้รับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการ เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยฮัมบูร์กในเยอรมนี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 68)