“ทาคาอิจิ” เล็งตั้งอดีตขรก.คลัง นั่งเก้าอี้รมว.คลังหญิงคนแรกของญี่ปุ่น

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น มีแผนที่จะแต่งตั้งซัตสึกิ คาทายามะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของประเทศ เนื่องจากมีมุมมองการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการคลังที่สอดคล้องกัน

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า คาทายามะ ซึ่งเคยเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังมาก่อน และยังเคยเป็นรัฐมนตรีด้านการฟื้นฟูภูมิภาค ถูกมองว่ามีมุมมองด้านเศรษฐกิจและการคลังที่สอดคล้องกับทาคาอิจิ ซึ่งแสดงความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการเติบโต

หากคาทายามะได้รับการแต่งตั้งจริงตามที่เป็นข่าว ก็จะถือเป็นการส่งสัญญาณถึงการให้ความสำคัญกับประเด็นทางการคลัง และยังเป็นแรงสนับสนุนที่มากขึ้นสำหรับการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในสังคม โดยการแต่งตั้งทาคายามะจะเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการทำลาย “เพดานแก้ว” (Glass Ceiling) ในวงการการเมือง ในขณะที่ทาคาอิจิเองก็เตรียมจะได้รับการลงมติจากรัฐสภาในวันนี้ (21 ต.ค.) ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเช่นกัน

ทั้งนี้ ค่อนข้างจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทาคาอิจิ นักการเมืองหัวอนุรักษนิยมสายเหยี่ยว และเป็นผู้ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะได้รับชัยชนะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาวันนี้ หลังจากที่พรรค LDP บรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคฝ่ายขวาอย่างพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (JIP หรือ Ishin) เมื่อวานนี้ โดยถึงแม้เสียงรวมกันของรัฐบาลผสมในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาหลัก จะมีอยู่ 231 ที่นั่ง ซึ่งขาดไป 2 เสียงจึงจะเป็นเสียงข้างมาก แต่คาดว่าจำนวนดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้ทาคาอิจิได้รับชัยชนะในการโหวต

การได้รับเลือกของทาคาอิจิมีแนวโน้มที่จะทำให้นโยบายของประเทศเอนเอียงไปทางขวามากขึ้น ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และประเด็นผู้อพยพ

ด้านคาทายามะ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการวิจัยด้านระบบการเงินและการธนาคารของพรรค LDP มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจและการคลัง เธอเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นภายใต้การบริหารของอดีตนายกฯ อาเบะ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขานรับความเป็นไปได้ที่ทาคาอิจิจะขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล เนื่องจากมองว่าเธอมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 68)