รัฐเล็งลุยจับแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศ สกัดนอมินีแย่งงานคนไทย

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวชาวต่างชาติประกอบธุรกิจในลักษณะนอมินี และเข้ามาทำงานประกอบอาชีพแข่งขันกับคนไทยไม่ถูกกฎหมายในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น การประกอบธุรกิจร้านให้เช่ารถ ธุรกิจบริการนำเที่ยว และร้านตัดผมตามแหล่งท่องเที่ยวและย่านการค้าสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของคนต่างชาติ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของคนต่างชาติที่แย่งอาชีพคนไทย รวมถึงแรงงานต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างเข้มงวด โดยการลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการในทุกจังหวัดทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย เมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งประกอบอาชีพและอุตสาหกรรมหลัก รวมถึงย่านการค้าและแหล่งเศรษฐกิจสำคัญที่มีแรงงานต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อให้การทำงานของแรงงานต่างชาติเป็นไปตามกฎหมาย และมิให้กระทบต่อโอกาสการมีงานทำของคนไทย

คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยต้องเคารพกฎหมาย โดยแรงงานต่างชาติต้องมีเอกสารประจำตัวบุคคลและใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้อง รวมทั้งต้องทำงานตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมายที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำทั้งสิ้น 40 งาน ซึ่งคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมถึงห้ามขอใบอนุญาตทำงานเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับโทษ ในส่วนของนายจ้างหรือสถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท/คนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท/คนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน โทร. 02-354-1729 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯ พื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 68)