
“ทองคำ” ไม่เพียงแต่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนหลังราคาทะลุ 67,000 บาท แต่ยังเป็นแร่สำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ การ์ดหน่วยความจำ ไปจนถึงอุปกรณ์ตรวจจับโรคมะเร็ง
บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เผยแพร่บทความเรื่อง “เจาะลึกเส้นทางของทองคำ โลหะล้ำค่าใต้ผืนดิน แร่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก” ระบุว่า ในวันที่ทองคำมีราคาขายพุ่งสูงทำสถิติที่บาทละกว่า 67,000 บาท หลายคนอาจมองว่าสาเหตุทั้งหมดมาจากความต้องการลงทุนหรือการเก็บสะสมเพื่อความมั่นคงในยามที่โลกมีความไม่แน่นอน
แต่ในความเป็นจริง ทองคำยังมีบทบาทที่มากขึ้นในฐานะแร่สำคัญของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยอาศัยคุณสมบัติพิเศษของทองคำทั้งการนำไฟฟ้าได้อย่างเสถียร ความทนทานต่อการกัดกร่อน และการนำมาขึ้นรูปได้ง่าย ทำให้ทองคำเป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ตั้งแต่สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ การ์ดหน่วยความจำ ไปจนถึงอุปกรณ์ตรวจจับโรคมะเร็ง ข้อมูลของ World Gold Council (WGC) ระบุว่า ในแต่ละปีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวมีความต้องการใช้ทองคำมากถึง 326 ตัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 7% ของความต้องการทองคำทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกพื้นที่บนโลกจะมีทองคำซ่อนอยู่ใต้ดิน ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีแหล่งแร่ทองคำที่สามารถสกัดขึ้นมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ โดยหนึ่งในแหล่งสำคัญคือ บริเวณเหมืองแร่ทองคำชาตรี หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อเหมืองทองอัครา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ซึ่งดำเนินการโดยอัครารีซอร์สเซสที่มีเบื้องหลังการผลิตทองคำไทยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
ในยุคที่ความต้องการทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น การทำเหมืองทองจึงไมใช่เพียงเรื่องของการผลิต แต่คือการยกระดับทุกขั้นตอนด้วยมาตรฐานสากลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

“บทบาทของทองคำในวันนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นเครื่องประดับหรือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง แต่ยังเป็นทรัพยากรสำคัญของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก อัคราฯ จึงมุ่งมั่นยกระดับศักยภาพการผลิตทองคำอย่างมีมาตรฐานและความรับผิดชอบ เพื่อให้ทองคำไทยได้มีบทบาทอย่างภาคภูมิใจในห่วงโซ่การผลิตของโลก และส่งต่อคุณค่ากลับคืนสู่สังคมไทยซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญของธุรกิจเรา” นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บมจ.อัคราฯ กล่าว
กระบวนการเหล่านี้เริ่มต้นตั้งแต่การสำรวจซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำเหมืองที่มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเป็นตัวช่วยหลัก โดยในส่วนของเหมืองทองอัคราได้มีการนำนวัตกรรมโดรนไลดาร์ (Drone LiDAR) มาใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติ ทำให้การวางแผนระเบิดและการขุดเจาะมีความแม่นยำ พร้อมใช้เทคนิคการระเบิดแบบหน่วงเวลาที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนต่อชุมชน
หลังจากระเบิด ขุดหินและดินขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ได้ไม่ใช่ทองคำในทันทีแต่คือสินแร่ที่ปะปนอยู่กับดินทิ้งที่ต้องผ่านกระบวนการแยกแร่ทองคำและเงินออกจากหิน โดยเริ่มจากการบดและทำละลายสินแร่ให้อยู่ในรูปของเหลวคล้ายน้ำโคลน จากนั้นใช้สารละลายโซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะในการดึงแร่ จากนั้นแร่เงินและทองคำที่แยกตัวแล้วจะถูกดึงออกจากน้ำโคลนโดยใช้เม็ดถ่านกัมมันต์ จากนั้นนำเม็ดถ่านกัมมันต์ที่ดูดซับอนุภาคทองคำและเงินไปต้ม เพื่อดึงแร่ออกจากเม็ดถ่านจนได้สารละลายทองเข้มข้น หรือที่เรียกกันว่าน้ำทอง โลหะทองคำและเงินในน้ำทองจะถูกดักจับด้วยเซลล์ไฟฟ้าและนำไปอบจนกลายเป็นผงแร่ หรือเค้กแห้งที่พร้อมสำหรับการหลอมในเตาที่มีอุณหภูมิสูงถึง 1,300-1,350 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้แท่งโลหะทองผสมเงินที่เรียกว่าแท่งโดเร่ โดยแท่งโดเร่แต่ละแท่งจะมีน้ำหนักประมาณ 10-12 กิโลกรัม ประกอบด้วยทองคำราว 10% เงิน 89% และทองแดงหรือแร่อื่น ๆ ไม่เกิน 1% และสามารถตีเป็นมูลค่าได้ถึง 4 ล้านบาทหากเปรียบเทียบกับราคาในปัจจุบัน แท่งโดเร่เหล่านี้จัดเป็นผลผลิตสุดท้ายของเหมืองที่จะถูกส่งต่อไปสกัดเป็นทองคำบริสุทธ์และแปรรูปภายในประเทศต่อไป
การรักษาระบบนิเวศที่เกื้อกูลกันระหว่างชุมชน ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม เพราะกว่าที่สินแร่จากใต้ดินจะถูกแปรสภาพมาเป็นแท่งโดเร่ได้นั้น ต้องผ่านการทำงานที่ละเอียดรอบคอบ แต่คำถามที่ตามมาอย่างปฏิเสธไม่ได้คือ การทำเหมืองเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้างมากน้อยแค่ไหน? เพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตทองคำไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและการดำรงชีวิตของชุมชนรอบข้าง เหมืองทองจึงมีมาตรฐานที่เข้มงวดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การทำเหมืองระบบปิดเพื่อไม่ให้มีการปล่อยสิ่งใดออกนอกพื้นที่โครงการ การควบคุมเสียง ฝุ่น และแรงสั่นสะเทือนให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด การตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ และที่สำคัญคือการบริหารจัดการการใช้สารเคมีอย่างไซยาไนด์ ตั้งแต่การควบคุมจำนวนการใช้ การตรวจวัดและป้องกันไม่ให้สารละลายแปรสภาพเป็นแก๊สพิษ และการกำจัดไซยาไนด์ที่ปนเปื้อนอยู่ในหางแร่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เหมืองทองอัครานำมาใช้ ภายใต้มาตรฐาน International Cyanide Management Code ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้ยืนยันความปลอดภัยในการใช้สารโซเดียมไซยาไนด์
นอกเหนือจากการดำเนินงานที่ต้องใส่ใจผู้คน เหมืองทองยังมีบทบาทในการคืนกำไรสู่สังคมและประเทศ ผ่านการจ่ายค่าภาคหลวงแร่ ซึ่งเปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมการใช้ทรัพยากรของประเทศ และการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชน เฝ้าระวังสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนรอบพื้นที่เหมืองในทุกมิติ เพื่อให้เหมืองสามารถเติบโตไปพร้อมกับชุมชนได้ในระยะยาว
กระบวนการเบื้องหลังกว่าจะได้ทองคำมานั้นมีความซับซ้อน และต้องอาศัยการดำเนินงานอย่างใส่ใจ เพื่อให้ได้ทองคำสัญชาติไทย จากผืนแผ่นดินไทยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน พร้อมสำหรับการนำไปใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในนวัตกรรมต่าง ๆ และนำพาประเทศไทยไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 68)





