หุ้นไทยเตรียมวิ่ง! TISCO เก็ง RMF/TESG ไหลเข้า-เลือกตั้งหนุน SET ท้ายปีทะยาน แนะ 7 หุ้นเด่นรับปันผลงาม

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ปีนี้หุ้นโลกให้ผลตอบแทนดีมาก โดยในช่วง 10 เดือนแรก MSCI World Index ปรับตัวขึ้นกว่า +19% และตลาดหุ้นหลายประเทศสำคัญทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ทั้งสหรัฐฯ, สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ (MSCI Asia ex. JP) ยิ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นโลกอีกปรับตัวขึ้นถึง +31% vs ตลาดหุ้นไทยที่ผลตอบแทนยังติดลบ -6% บล.ทิสโก้ ยังคงมุมมองแนวโน้มนโยบายการเงินสหรัฐฯ และไทยที่อยู่ในโหมดผ่อนคลาย น่าจะหนุนให้ SET Index ในฐานะตลาดหุ้นที่ยัง Laggard มาก ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า

สำหรับหุ้นไทยในปีนี้ยัง Laggard หุ้นต่างประเทศมาก ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยอยู่ในโซนต่ำด้วยเมื่อเทียบกับหุ้นต่างประเทศโดยคิดเป็น Fwd. PER และ PBV ปีหน้าที่ 12.8x และ 1.1x ตามลำดับ vs ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นเอเชียที่ 13.3x และ 1.7x เท่าตามลำดับ ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลตลาดหุ้นไทยที่ 4.3% ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นต่างประเทศที่มีค่าเฉลี่ยเงินปันผลอยู่ที่ 2.6% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่อยู่ที่ประมาณ 4% ในปัจจุบัน ทำให้ช่วงเวลานี้หุ้นไทยน่าจะดึงดูดเม็ดเงินไหลเข้ามากขึ้น เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเข้าสู่ฤดูกาลประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปีแล้ว

เข้าสู่เดือน พ.ย.-ธ.ค.ของทุกปีเป็นช่วงฤดูกาลที่กองทุนลดหย่อนภาษีไหลเข้ามากสุดเพื่อรับประโยชน์ทางภาษีก่อนสิ้นปี บล. ทิสโก้ประเมินว่าจะเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ทั้ง RMF และ TESG รวมราว 1-1.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ หากมองข้ามช็อตไปในต้นปีหน้า บล. ทิสโก้ยังลุ้นผลกระทบ “Pre-election Rally” อิงจากการศึกษาข้อมูลการเลือกตั้งของไทยในอดีตตั้งแต่มีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้นมา ตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้งมักปรับตัวขึ้น โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว +4.4% และมีระดับความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 70% นอกจากนี้ ผลกระทบจากการเลือกตั้งยังอาจมีความต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์หลังเลือกตั้ง หรือที่มักเรียกว่า “Honeymoon Period” โดยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยอีกราว +2.3% และมีระดับความเชื่อมั่นเฉลี่ยสูงถึง 80%

การลงทุนในเดือน พ.ย.นี้ แนะนำหุ้นที่มี ESG Rating ระดับ A ขึ้นไปและโมเมนตัมกำไรดีในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี ADVANC, BBL, CPAXT, KCE, OR, SYNEX รวมทั้งหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 Index – SAWAD เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่แนะนำ คือ ADVANC, BBL, CPAXT, KCE, OR, SAWAD และ SYNEX ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,300 จุด แนวรับถัดไปคือ 1280 จุดและ 1250-1,260 จุด แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,345 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,360-1,370 จุด ตามลำดับ

ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยผ่าน DR เดือนพฤศจิกายนนี้ แนะนำ GOLD19 และ TRIPCOM80 แม้ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 4,380 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ก่อนย่อตัวลง แต่ บล. ทิสโก้ยังมองเชิงบวกต่อทองคำจากความผันผวนของสินทรัพย์ทั่วโลกยังไม่จบ โดยในปีหน้าบล. ทิสโก้คาดว่าทองคำมีโอกาสแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ขณะเดียวกันเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงประกาศงบของหุ้นจีน โดย TRIPCOM80 (9961 HK) คาดจะรายงานกำไรเติบโต 14% YoY จากการจองที่พักที่เพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่รัฐบาลจีนจะกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)