
เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน นับเป็นการโจมตีพลเรือนครั้งแรกในรอบ 10 ปีในกรุงอิสลามาบัด โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานกล่าวหาว่า อัฟกานิสถานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงดังกล่าว และเตือนว่าจะตอบโต้หากรัฐบาลอัฟกานิสถานไม่สามารถควบคุมกลุ่มติดอาวุธที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุได้ ขณะที่ทางการอัฟกานิสถานปฏิเสธข้อกล่าวหา
คาวาจา มูฮัมหมัด อาซีฟ รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ปากีสถานอยู่ในภาวะสงคราม และมองว่า การโจมตีในกรุงอิสลามาบัดเป็นสัญญาณจากอัฟกานิสถาน ซึ่งปากีสถานมีอำนาจตอบโต้ได้เต็มที่
ด้านโมห์ซิน นาควี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน เปิดเผยว่า อัฟกานิสถานต้องยับยั้งกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ หากไม่สำเร็จ ปากีสถานจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจัดการผู้ก่อการร้ายที่โจมตีปากีสถาน
นาควีเสริมว่า ผู้ก่อเหตุโจมตีโรงเรียนมีการติดต่อกับผู้ควบคุมในอัฟกานิสถานระหว่างปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนผู้สนับสนุนเบื้องหลังเหตุระเบิดที่ศาล พร้อมย้ำว่า เหตุโจมตีครั้งนี้ส่งสารสำคัญหลายประการ
ขณะเดียวกัน กลุ่มเตเฮรีก-อี-ตาลิบาน ปากีสถาน หรือ ตาลีบานปากีสถาน ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ ขณะที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวมักโจมตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นหลัก โดยทางการปากีสถานระบุว่า กลุ่มตาลีบานปากีสถาน และกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ตั้งฐานปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน โดยได้รับการสนับสนุนจากอินเดีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 68)





