
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ว่า จะเดินทางไป จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.อ่างทอง ไปติดตามเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยในส่วนที่อยู่ในสภาวะน้ำท่วมนานเกิน 3-4 เดือน โดยจะมีเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
ส่วนการปรับการระบายน้ำของเขื่อนหลัก ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนเจ้าพระยา นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยจะพยายามบริหารจัดการให้เต็มที่ และจะให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งรายละเอียดจะให้กรมชลประทาน และ สทนช. เป็นผู้ชี้แจง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนเต็มที่ให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ และได้มีการแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความพร้อม ตลอดจนการดูแลสุขภาพและการเยียวยาหลังน้ำลด
ด้าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำหลากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังปัญหา ให้กำลังใจประชาชน และสั่งการให้เร่งบูรณาการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางพร้อมคณะ ประกอบด้วย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม, นายศักดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธ์รัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
- กำหนดการลงพื้นที่อ่างทอง-อยุธยา
โดยเวลา 11.45 น. นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางจากกองพลที่ 2 รักษาพระองค์ โดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังสนามกีฬาโรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยระหว่างทาง จะบินสำรวจภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่รับน้ำ ตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท ก่อนติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
ภายหลังการรับฟังรายงาน นายกรัฐมนตรี จะมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จำนวน 1,500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมย้ำให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด
ช่วงบ่าย เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรีรับฟังปัญหา และพบปะพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ วัดบันไดช้าง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นเวลา 14.05 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังวัดท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 1,000 ชุด แก่ผู้ประสบภัย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลที่มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคกลาง โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การดูแลและช่วยเหลือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดูแลประชาชน รวมถึงการเร่งฟื้นฟูให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 68)





