ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำนิวไฮต่อเนื่อง กลุ่มการเงิน-ความหวังยุติชัตดาวน์สหรัฐฯ หนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพุธ (12 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน ขณะที่นักลงทุนมีความหวังต่อการยุติภาวะการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งดำเนินมายาวนานเป็นประวัติการณ์ รวมถึงติดตามรายงานผลประกอบการของหลายบริษัท

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 584.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.10 จุด หรือ +0.71%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,241.24 จุด เพิ่มขึ้น 85.01 จุด หรือ +1.04%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,381.46 จุด เพิ่มขึ้น 293.40 จุด หรือ +1.22% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,911.42 จุด เพิ่มขึ้น 11.82 จุด หรือ +0.12%

นักลงทุนทั่วโลกต่างคาดหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ จะลงมติยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางที่ส่งผลให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญไม่สามารถเผยแพร่ได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบาย ถึงแม้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอยู่บ้าง แต่ตลาดคาดว่า หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ แสดงสัญญาณอ่อนแอ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับท่าทีเชิงผ่อนคลายมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงิน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังความเชื่อมั่นเชิงบวกในตลาดคือความหวังเรื่องการยุติภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารในยุโรปที่ทำผลงานได้ดี ดัชนีที่มีน้ำหนักธนาคารสูงอย่าง CAC และ IBEX เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ดันตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมให้ปรับตัวขึ้น

กลุ่มธนาคารเป็นแรงหนุนหลักของดัชนี STOXX 600 โดยหุ้น ABN Amro พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากธนาคารดัตช์รายนี้ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่แข็งแกร่ง และเปิดเผยว่าได้เข้าซื้อกิจการ NIBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดภายในประเทศ

หุ้นกลุ่มการเงินยุโรปปรับตัวดีกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ จากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด โดยตลาดหุ้นที่มีน้ำหนักกลุ่มธนาคารสูงในสเปนและอิตาลีต่างปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับดัชนี STOXX 600

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ของยุโรปเพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนกลุ่มพลังงานลดลง 0.6%

หุ้น SSE ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 16.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนลงทุน 5 ปี มูลค่า 3.3 หมื่นล้านปอนด์ (4.429 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อยกระดับโครงข่ายไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร และขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

หุ้น Infineon ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.9% หลังจากบริษัทผู้ผลิตชิปรายนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปี จากความต้องการชิปที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มสูงขึ้น

หุ้น RWE พุ่งขึ้น 9.1% หลังรายงานกำไร 9 เดือนแรกของปีออกมาสูงกว่าที่คาดไว้

ในทางกลับกัน หุ้น FLSmidth & Co ร่วงลง 8.5% หลังรายงานยอดคำสั่งซื้อไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าที่คาด และเตือนว่าความล่าช้าในโครงการบางส่วนอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการ

หุ้น Edenred ผู้ให้บริการคูปองในฝรั่งเศส ร่วงลง 4% หลังระบุว่าอาจปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2569 หากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับระบบคูปองอาหารในบราซิลมีผลบังคับใช้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)