
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 20 ล้านล้านเยน (กว่า 4.17 ล้านล้านบาท) โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าวในวันนี้ (19 ต.ค.) ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้ จะรวมถึงการลดภาษีน้ำมันเบนซิน โดยจัดสรรจากงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2569 ซึ่งคาดว่างบประมาณเพิ่มเติมนี้ จะมีมูลค่าสูงถึง 17 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงกว่าระดับ 13.9 ล้านล้านเยนของปีที่แล้ว
ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ รัฐบาลวางแผนที่จะให้เงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซในช่วง 3 เดือนแรกของปีหน้า นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวจะรวมถึงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อริเริ่มมาตรการของตนเอง เช่น บัตรกำนัลข้าว เพื่อรับมือกับราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 ของญี่ปุ่น หดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบหกไตรมาส เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ให้คำมั่นว่าจะพยุงเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายทางการคลังแบบเชิงรุก
อย่างไรก็ดี นักลงทุนในตลาดการเงินได้แสดงความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจของทาคาอิจิจะส่งผลกระทบต่อสถานะการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลเมื่อไม่นานมานี้ โดย ณ สิ้นปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 240%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 68)





