เงินเฟ้อ UK ต.ค.ชะลอตัวสู่ 3.6% หนุนคาดการณ์ BoE หั่นดอกเบี้ยเดือนหน้า

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักร (UK) ชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนต.ค. จากระดับ 3.8% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และช่วยลดแรงกดดันต่อรัฐบาลรวมถึงธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.ที่ชะลอตัวลงนั้น สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ BoE และนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากที่เงินเฟ้อเดือนก.ย. ไม่ได้พุ่งแตะระดับ 4% ตามที่ BoE เคยประเมินไว้

มาร์ติน เบ็ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก WPI Strategy กล่าวว่า “ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว และงบประมาณฉบับใหม่ในสัปดาห์หน้าที่มีแนวโน้มจะคุมเข้มทางการคลังอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้เอื้อให้ BoE สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในการประชุมเดือนธ.ค.”

อนึ่ง BoE ได้ระงับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในการประชุมต้นเดือนนี้ ขณะที่เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง UK ระบุว่า เธอจะพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการทางภาษีและการใช้จ่ายที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ในการแถลงงบประมาณประจำปีวันที่ 26 พ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ BoE คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวเหนือเป้าหมายที่ระดับ 2% ไปจนถึงช่วงกลางปี 2570 โดยปัจจัยหลักมาจากอัตราการเติบโตของค่าจ้างที่สูงกว่าระดับที่ผู้กำหนดนโยบายมองว่าเหมาะสมสำหรับการคุมเงินเฟ้อ ท่ามกลางภาวะผลิตภาพเติบโตต่ำ

ด้านดัชนีราคาภาคบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ BoE ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.5% ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 4.6% โดยสำนักงานสถิติฯ ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ช่วยฉุดให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมลดต่ำลงมาจากค่าไฟฟ้าและค่าทำความร้อนในครัวเรือนที่ปรับตัวลดลง รวมถึงราคาห้องพักโรงแรมที่ถูกลง

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหาร พลังงาน แอลกอฮอล์ และยาสูบ ชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.4% ในเดือนต.ค. จากระดับ 3.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.9% ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.5% และคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในหมวดนี้จะพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 5.3% ในเดือนธ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 68)