
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.8% ในช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ย.) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 17 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลว่าสถานะการคลังของญี่ปุ่นจะถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่น อยู่ในทิศทางขาขึ้นนับตั้งแต่ซานาเอะ ทาคาอิจิ ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะหมายถึงการออกตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อนโยบายการคลังของประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 20 ล้านล้านเยน (กว่า 4.17 ล้านล้านบาท) โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้น
แหล่งข่าวระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้ จะรวมถึงการลดภาษีน้ำมันเบนซิน โดยจัดสรรจากงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2569 ซึ่งคาดว่างบประมาณเพิ่มเติมนี้ จะมีมูลค่าสูงถึง 17 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงกว่าระดับ 13.9 ล้านล้านเยนของปีที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีทาคาอิจิให้คำมั่นว่าจะพยุงเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายทางการคลังแบบเชิงรุก แต่นักลงทุนในตลาดการเงินได้แสดงความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจของทาคาอิจิจะส่งผลกระทบต่อสถานะการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาล โดย ณ สิ้นปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 240%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)





