เงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน คาดหนุน BOJ ขึ้นดอกเบี้ย

กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวน ปรับตัวขึ้นรวดเร็วกว่าเดือนก.ย. ที่เพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งตอกย้ำถึงผลกระทบของต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมาก

รายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า ดัชนี CPI พื้นฐานยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ มาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 ขณะที่ BOJ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ

ส่วนดัชนี Core-core CPI ซึ่งไม่รวมทั้งราคาอาหารสดและราคาพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. โดยราคาอาหาร ซึ่งไม่รวมอาหารสด เพิ่มขึ้น 7.2% และราคาสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 2.2%

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าอย่างมากเพื่อรองรับความต้องการอาหารและพลังงาน แม้ว่าการอ่อนค่าของเงินเยนจะเป็นปัจจัยหนุนการส่งออก เพราะทำให้สินค้าญี่ปุ่นมีราคาถูกลงในตลาดต่างประเทศ และทำให้รายได้จากต่างประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินเยน แต่ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้ราคาการนำเข้าสูงขึ้นด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 68)